Skip to content
บอกวิธีทำ SEO ให้ปังต้องรู้ Keyword 3 ประเภทนี้

Table of Contents

อยากทำ SEO ให้ปัง ต้องรู้จัก SEO Keyword 3 ประเภทนี้!

SEO Keyword คือ Keyword ที่ใช้สำหรับการทำ SEO (Search Engine Optimization) ซึ่งประเภทของ Keyword นั้นก็มีอยู่หลากหลาย และมีการนำไปใช้งานที่แตกต่างกัน เราจำเป็นจะต้องมีการวางแผนการหา Keyword ใน Google เพื่อการเลือกใช้ Keyword อย่างเหมาะสม

เนื่องจาก SEO Keywords คือหนึ่งในหัวใจสำคัญในการทำ SEO (Search Engine Optimization) ให้ประสบความสำเร็จ ทำให้เราจะเลือก Keyword มาลอย ๆ โดยไม่มีการวิเคราะห์และวางแผนไปไม่ได้ ดังนั้นเราจะต้องวางแผน วิเคราะห์ มองหา และเลือกใช้ Keyword ที่เหมาะสมและตอบโจทย์ที่สุด เพื่อทำ SEO ติดหน้าแรกของการแสดงผลบนหน้าค้นหาของ Google และเชื่อมโยงผู้ใช้งานเข้ามาสู่เว็บไซต์ของเราให้ได้มากที่สุด จนติดอันดับ 1

วันนี้ ADME จึงจะพาทุกคนมารู้ถึงความสำคัญของ Keyword ในการทำ SEO และไปรู้จักกับ SEO Keyword ทั้ง 3 ประเภท พร้อมแนะนำช่องทางการค้นหา Keyword และสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกใช้ Keywords สำหรับทำ SEO ให้ได้รู้ไปพร้อม ๆ กัน

เลือก Keyword ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง! “ความสำคัญของ SEO Keyword”

SEO Keywords คือสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จ ด้วยเหตุผลต่าง ๆ เหล่านี้

  • การเลือก SEO Keyword ก็เป็นเหมือนการเลือกทำเลของธุรกิจออนไลน์หรือเว็บไซต์ต่าง ๆ เพราะจะสามารถเป็นตัวกำหนดได้ว่าเว็บไซต์ของเราจะไปแสดงผลหรือถูกจัดไว้ในอันดับที่เท่าไหร่บนหน้าแสดงผลการค้นหาของ Google เนื่องจาก Keyword ในแต่ละคำที่เลือกมานั้นก็มีการแข่งขันที่แตกต่างกัน หากเลือกใช้ Keyword ได้ดี และสร้างสรรค์คอนเทนต์ออกมาได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับ Keyword ก็จะทำให้เว็บไซต์ถูกจัดไว้ในอันดับบน ๆ และเข้าถึงผู้คนได้ง่าย เหมือนร้านที่ตั้งอยู่ในทำเลทองบน Google นั่นเอง
  • การเลือก SEO Keyword ที่ดี จะทำให้เว็บไซต์ของเราได้รับ Traffic ที่มีคุณภาพ หรือก็คือเป็นการเชื่อมโยงผู้ที่มีความต้องการหรือมีความสนใจในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสินค้า บริการ หรือเนื้อหาที่อยู่บนเว็บไซต์อยู่แล้วให้เข้ามาสู่เว็บไซต์ของเรา ซึ่งจะมีโอกาสสูงที่กลุ่มคนเหล่านี้จะกลายมาเป็นลูกค้าของเราในอนาคต
  • การหา Keyword ใน Google จะทำให้เราทราบได้ว่าตอนนี้ผู้ใช้งานหรือกลุ่มเป้าหมายของเรากำลังใช้คำอะไรในการค้นหาข้อมูลหรือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสินค้า บริการ หรือเนื้อหาที่อยู่บนเว็บไซต์ ซึ่งจะช่วยให้เรารู้ได้ว่าพวกเขาต้องการคอนเทนต์หรือข้อมูลในลักษณะใด ทำให้สามารถนำไปวางแผนและพัฒนาการนำเสนอเนื้อหาให้ตรงกับ Intent หรือความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ


การเลือกใช้ SEO Keywords คือสิ่งที่จะทำให้เราสามารถประเมินได้ถึงโอกาสในการทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จ เนื่องจากการเลือก Keyword จะทำให้เราวางแผนได้ว่าเรามีโอกาสในการติดอันดับมากหรือน้อย มีคู่แข่งที่น่ากลัวหรือไม่ ต้องลงแรงในการพัฒนา SEO หรือทำคอนเทนต์เพื่อให้ Keyword คำนี้ติดอันดับมากน้อยเพียงใด เพราะถึงแม้ในบางครั้ง Keyword ที่เราเลือกจะมีการแข่งขันที่สูง แต่หากเป็นคำที่คนสนใจมาก มีการค้นหามาก เราก็พร้อมที่จะยอมเสี่ยง เรียกได้ว่านี่เป็นสิ่งที่นักการตลาดและผู้ที่ต้องการทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จทุกคนจะต้องวิเคราะห์ให้ขาดว่าความเสี่ยงกับผลลัพธ์ที่ได้ แบบไหนที่ธุรกิจของคุณกำลังต้องการมากที่สุด

ประเภทของ Keyword ในการทำ SEO

Keyword สำหรับการทำ SEO จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีความโดดเด่นและความเหมาะสมในการทำไปใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. Big Head Keywords

Big Head Keywords คือ SEO Keyword ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ซึ่งมีปริมาณการค้นหามากที่สุด โดยจะเป็นคำกว้าง ๆ ที่ไม่เฉพาะเจาะจง 

ตัวอย่าง : Phone Case 

2. Chunky Middle Keywords

Chunky Middle Keywords คือ คำที่ผู้ใช้งานมักจะนึกถึงเมื่อค้นหาใน Google เป็นคำที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น อาจเป็นการเพิ่มหมวดหมู่สินค้าหรือกลุ่มของสินค้าเข้ามา ทำให้คำเหล่านี้เป็นที่ต้องการและมีประโยชน์อย่างมากหากใช้อย่างเหมาะสม

ตัวอย่าง : iPhone 14 Case

3. Long-tail Keywords

Long-tail Keywords คือ ประเภทของ Keyword หรือข้อความการค้นหาที่ยาวขึ้น มีรายละเอียดของสิ่งที่ต้องการมากขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมักจะมีมากกว่า 3 คำ และมีความเฉพาะเจาะจงมากกว่าข้อความค้นหาแบบสั้น

ตัวอย่าง : iPhone 14 Pro Max Silicone case

สรุปความแตกต่างของ SEO Keyword ทั้ง 3 ประเภท

ประเภทของ Keywordsจุดเด่น

อัตราการแข่งขัน

(Keyword Difficulty)

Big Head Keywords
  • เป็น Keywords ที่เป็นคำกว้าง ๆ ไม่เฉพาะเจาะจง
  • ได้รับความนิยมสูงสุด
  • ปริมาณการค้นหามากที่สุด 
การแข่งขัน “สูง” ที่สุด เมื่อเทียบกับ Keywords ประเภทอื่น ๆ
Chunky Middle Keywords
  • เป็น SEO Keyword ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
  • อาจมีการเพิ่มหมวดหมู่สินค้าหรือกลุ่มสินค้าเข้ามา เพื่อให้ตรงกับการค้นหามากขึ้น
การแข่งขันอยู่ในระดับ “ปานกลาง”
Long-tail Keywords
  • เป็น Keywords ที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้นไปอีก
  • เป็นข้อความการค้นหาที่ยาวขึ้น 
  • บอกรายละเอียดของสิ่งที่ต้องการมากขึ้น
การแข่งขัน “ต่ำ” ที่สุด เมื่อเทียบกับ Keywords ประเภทอื่น ๆ 

สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกใช้ SEO Keyword สำหรับทำ SEO

เมื่อรู้จักกับประเภทของ SEO Keyword  และช่องทางการค้นหา Keyword ที่ดีและมีคุณภาพกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อมาเราจะต้องเลือกใช้ประเภทของ Keyword หรือเลือกใช้ Keyword ต่าง ๆ นการทํา SEO ให้ติดหน้าแรก Google อย่างเหมาะสม โดยการคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้

  • Search Volume : Keyword นั้นๆ มีจำนวนการหา Keyword ใน Google อยู่ที่เท่าไหร่
  • Keyword Difficulty : SEO Keyword นั้นๆ มีอัตราการแข่งขันที่สูงหรือต่ำ
  • Relevance : Keyword สามารถเชื่อมโยงได้กับคอนเทนต์ สินค้า บริการ รวมถึงเป้าหมายของเว็บไซต์หรือไม่
  • Intent: ความต้องการของผู้ที่ค้นหา Keyword นั้นๆ คืออะไร ตอบโจทย์และตรงกับสินค้า บริการ รวมถึงเป้าหมายของเว็บไซต์ของเราหรือไม่


Timeframe
: ในกรอบของช่วงเวลาที่เรากำหนด มีคำค้นหาที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ อะไรบ้างที่คนสนใจ และสามารถนำมาทดแทนหรือนำมาใช้ประกอบกับ Keyword หลักได้

รู้จัก Google Keyword Planner เครื่องมือค้นหา SEO Keyword

Google Keyword Planner คือ เครื่องมือการหา Keyword ใน Google หรือเครื่องมือจากทาง Google ที่จะช่วยตรวจสอบคำค้นหาหรือ Keyword เพื่อให้เราสามารถวางแผนการเลือกใช้ประเภทของ Keyword ต่าง ๆ ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ ทำโฆษณา หรือทำการตลาดออนไลน์อย่างการทำ SEM (earch Engine Optimization)
และการทำ SEO  (Search Engine Marketing) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

หรือก็คือการใช้ Google Keyword Planner จะทำให้การเลือกใช้ SEO Keywords คือสิ่งที่จะทำให้หน้าเว็บไซต์ของธุรกิจขึ้นมาติดอันดับแรก ๆ ในหน้าแสดงผล Search Engine อย่าง Google และส่งเสริมการทำการตลาดออนไลน์ให้กับธุรกิจได้อย่างแน่นอน 

วิธีสมัครเข้าใช้งาน Google Keyword Planner เพื่อวางแผนการใช้ SEO Keyword

  1. เข้าบัญชี Google Account แล้วค้นหาคำว่า Keyword Planner (โดยเราจะต้องมีบัญชี Google Account ก่อน และที่สำคัญคือสามารถใช้ได้ทั้งบัญชีธุรกิจและบัญชีส่วนตัว)
  2. คลิกที่ปุ่ม Go to Keyword Planner สีฟ้า จากนั้นให้ใส่รหัสผ่านเพื่อยืนยันตัวตน (บางครั้งระบบก็ไม่ขอรหัสผ่าน)
  3. เมื่อเข้ามาหน้านี้ ระบบจะขึ้นคำถามมาว่า What’s your main advertising goal เรายังไม่จำเป็นต้องกดเลือกในส่วนนี้ แต่ให้เลือกที่เมนู Experienced with Google Ads? ที่เป็นตัวอักษรสีฟ้าด้านล่างกล่องคำถาม
  4. ขั้นตอนต่อมาคือการสร้างบัญชีผู้ใช้งานโดยไม่ต้องใช้ LINK สำหรับการทำแคมเปญ โดยให้เลือกที่เมนูตัวอักษรสีฟ้าที่เขียนว่า Create an account without a campaign ที่อยู่บริเวณด้านล่างซ้ายมือ 
  5. เลือกกดที่ปุ่ม Submit สีฟ้า (ในส่วนนี้ Google จะยังไม่มีการเก็บค่าบริการ) ก็ถือว่าการสมัครใช้งานเสร็จสิ้น
  6. เข้าไปที่ปุ่ม Tools (ไอคอนรูปประแจ/เครื่องมือ) ด้านบน
  7. เลือกเมนู Switch to expert mode 
  8. เข้าไปที่ปุ่ม Tools (ไอคอนรูปประแจ/เครื่องมือ) อีกครั้ง และในครั้งนี้เราจะได้เห็นเมนู Keyword Planner ใต้เมนู Planner โดยเราสามารถกดเข้าไปเพื่อใช้งานและทำการหา Keyword ใน Google กันได้เลย!


2 รูปแบบ
การหา Keyword ใน Google Keyword Planner 

เมื่อสมัครบัญชีผู้ใช้งานเรียบร้อยแล้ว เราจะสามารถใช้งาน Google Keyword Planner เพื่อค้นหา Keyword ได้ 2 วิธี คือ

Discover New Keywords

Discover New Keywords คือการหาไอเดีย SEO Keyword ใหม่ ๆ และแสดงผลข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้เรารู้ได้ว่าในช่วงเวลานั้น ๆ คนทั่วไปสนใจ Keyword เหล่านั้นมากน้อยเท่าไหร่ ซึ่งเราจะสามารถใส่ Keyword ได้สูงสุดถึง 10 คำ และเมื่อใช้ Discover New Keywords จะทำให้เราสามารถรู้ได้ถึงข้อมูลต่าง ๆ มากมาย เช่น

  • Average monthly searches : จำนวนที่มีการค้นหา Keyword โดยเฉลี่ยในแต่ละเดือน
  • Competition : การแข่งขันของคำที่เราเลือกทั้งระดับสูง กลาง และต่ำ 
  • Top of page bid (low range) : ราคาประมูลเฉลี่ยในตำแหน่งที่ต่ำที่สุดหรือตำแหน่งล่าง ๆ ของหน้า Search Engine 
  • Top of page bid (high range) : ราคาประมูลเฉลี่ยในตำแหน่งที่สูงที่สุดหรือตำแหน่งบน ๆ ของหน้า Search Engine 
  • Ad Impression Share : อัตราส่วนแบ่งการแสดงโฆษณาของเรากับคู่แข่ง

โดยเราสามารถใช้ Google Keyword Planner ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นได้ ด้วยการลองมองหาไอเดีย Keyword ต่าง ๆ จากคู่แข่ง หรือลองเจาะไปที่กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อเลือก Keyword ที่ตอบโจทย์คนในพื้นที่นั้น ๆ โดยตรง เพราะ SEO Keywords คือสิ่งที่สามารถเลือกใช้ได้อย่างหลากหลายและอิสระ ตามการวางแผน และการวิเคราะห์ความเหมาะสมของผู้ทำแคมเปญนั่นเอง

Get search volume and forecasts

Search Volume and Forecasts คือการใช้ Google Keyword Planner ในการวิเคราะห์ผลเพื่อให้ทราบถึงจำนวนของการค้นหา Keyword แต่ละคำ รวมถึงรายละเอียดในเชิงลึกต่าง ๆ เพื่อคาดการณ์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาและเลือกใช้ SEO Keyword ได้อย่างเหมาะสม โดยการใช้ Search Volume and Forecasts จะสามารถรู้ได้ถึงข้อมูลต่าง ๆ มากมาย เช่น

  • Clicks : จำนวนคลิกที่มีคนกดโฆษณาทั้งหมด
  • Impressions :  จำนวนครั้งที่มีการแสดงผล
  • Cost : ราคาหรือค่าใช้จ่ายในการทำแคมเปญ
  • CTR (Click Through Rate) : อัตราการคลิกต่อจำนวนการมองเห็น (ยิ่งสูง ยิ่งแปลว่าโฆษณามีคุณภาพ)
  • CPC (Cost Per Click) : อัตราค่าใช้จ่ายเฉลี่ย ต่อการคลิกโฆษณาหนึ่งครั้ง หรือการที่เจ้าของแคมเปญต้องจ่ายเมื่อมีการคลิก

เพียงเท่านี้ทุกคนก็ได้รู้จักประเภทของ Keyword เพื่อให้สามารถทำการหา Keyword ใน Google และเลือกใช้ SEO Keyword ที่เหมาะสมในการทำ SEO เพื่อโปรโมทเว็บให้ประสบความสำเร็จกันได้แล้ว ถ้าอยากรู้เรื่องราวการทำ SEO และการทำการตลาดออนไลน์เพิ่มเติม รอติดตามกันได้เลย!