Skip to content

ADME

ปัจจัยที่ทำให้ Bounce rate สูง

เว็บไซต์ดี ด้วยการปรับปรุง Bounce rate

Bounce rate คือ เครื่องมือการวัดผลตัวหนึ่ง ที่จะทำให้เว็บไซต์ของเรานั้นมีประสิทธิภาพและสามารถทําการตลาดออนไลน์ผ่านโฆษณา google adwords ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการสร้างและพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีนั้นเป็นการทำ google ads ที่ทำให้รู้ว่าตอนนี้คนกำลังสนใจเว็บไซต์ของเรามากน้อยแค่ไหน และควรปรับปรุงเว็ปไซต์ไปในแนวทางไหนดี เพื่อให้เว็บของเรานั้นดูดี ดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย และเป็นการเสริม SEO ให้ Google แสดงผลเว็บไซต์ของเราในหน้าแรกเมื่อมีการค้นหาในคีย์เวิร์ดหรือคำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือแบรนด์ของเรา ซึ่งหากเว็บไซต์เราดีจะทำให้เว็บไซต์ของคุณไปแสดงผลอยู่ในหน้าแรกหรืออันดับต้นๆ ของการค้นหานั่นเอง

Show More

แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเว็บไซต์เราดี หรือไม่ดีต้องปรับปรุงตรงไหนรึเปล่า?

..Bounce rate คือคำตอบให้คุณได้ !!

bounce rate google analytics คือ Metrics ที่ทาง Google Analytics ใช้วัดประสิทธิภาพของเว็บไซต์ว่าดีมั้ย คนเข้ามาแล้วอยู่แค่หน้าเดียวไม่ได้ไปหน้าอื่นต่อมาก – น้อยแค่ไหน ว่ากันง่ายๆ ก็คือ มันคือเปอร์เซนต์ที่บอกว่า มีกี่คนที่เข้ามาที่เว็บเรา แล้วอยู่แค่หน้าเดียว โดยไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้คลิก Menu ดูอะไร หรือไม่ได้คลิก Link ใดๆ บนเว็บเลย ซึ่งยิ่งมีเอปร์เซนต์ที่มาก แปลว่าคนเข้ามาแล้วไม่ได้ทำอะไรเลยมีจำนวนเยอะนั่นเอง

และนั่นก็เป็นสิ่งที่บอกได้ว่าหาก Bounce rate มีค่าของเปอร์เซนต์ที่สูงก็แปลว่าเว็บของเรานั้นยังไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะทำให้คนเกิด Action หรือสนใจที่จะเยี่ยมชมในส่วนต่างๆ เชื่อมโยงหน้าต่างๆ ในเว็บไซต์ของเรา รวมไปจนถึงเลือกซื้อสินค้าและบริการจากทางเว็บไซต์ ซึ่งแน่นอนว่าหากต้องการให้เว็บไซต์ของเราดี และทําการตลาดออนไลน์ผ่านโฆษณา google adwordsได้ตรงจุดค่าของ Bounce ควรจะน้อยนั่นเอง

 

Show Less

แน่นอนว่าเราก็คงอยากให้เว็บไซต์เราออกมาดีที่สุดและมีค่า Bounce น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเราได้เน้นย้ำไปแล้วว่ายิ่งค่า Bounce น้อยนั้นยิ่งแปลว่าเว็บไซต์ของเราดีและมีประสิทธิภาพตรงตามหลักของ Google ซึ่งทุกคนสามารถคำนวณได้ง่ายๆ ตามสูตรที่เรามาแนะนำในวันนี้ 

สูตรคำนวณหาค่าของ Bounce rate คือ

สูตรการคำนวณ Bounce rate เป็นสิ่งที่จะบอกเราได้ว่าสุดท้ายแล้วเว็บไซต์ที่เราได้ออกแบบหรือลงมือทำนั้น มันดีพอแล้วรึยัง ซึ่งสูตรการคำนวณ Bounce rate คือ

ค่า Bounce = Total Number of Visits Viewing Only One Page (Total Single-Page Views) / Total Page Visits

หรือ

ค่า Bounce = จำนวนการเข้าชมเว็บไซต์แล้วดูเพียงหน้าเดียวทั้งหมด / จำนวนการเข้าชมหน้าเว็บไซต์ทั้งหมด

การ Bounce จะถูกนับเมื่อไหร่ ?

ในการนับค่า Bounce rate คือวิธีทำการตลาดออนไลน์ผ่านโฆษณา google adwordsที่เราต้องหมั่นคำนวณและตรวจสอบว่าเว็บของเรามีประสิทธิภาพเพียงพอแล้วหรือยัง เพราะเว็บไซต์ก็เปรียบเหมือนบ้านของธุรกิจ ถ้าบ้านมีความแข็งแรง และสวยงาม ผู้คนก็จะเข้ามาเยี่ยมชมและให้ความสนใจกับธุรกิจของเรามากยิ่งขึ้น ซึ่งการ Bounce จะถูกนับเมื่อไหร่ วันนี้เราจะพาไปดูกัน 

 

Bounce นั้นจะมีการนับเมื่อมี 5 สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น

  • Session หมด
  • ผู้เข้าชมเว็บไซต์พิมพ์ Url ใหม่ แล้วออกไปจากหน้านั้น ไปเว็บอื่นเลย
  • ผู้เข้าชมเว็บไซต์ปิด Tab หรือ Window นั้นไปเลย
  • ผู้เข้าชมเว็บไซต์คลิกปุ่ม Back แล้วออกจากเว็บนั้น กลับไปเว็บอื่น
  • ผู้เข้าชมเว็บไซต์คลิกปุ่มในเว็บ เพื่อไปเว็บอื่นๆ

(ซึ่งแอบบอกว่า การกดแล้วไป Sub-Domain ก็นับเป็น Bounce เหมือนกัน)

เพราะการที่ Bounce rate คือค่าที่สูงนั้นแปลว่าเราจะต้องปรับปรุงเว็บไซต์เพิ่มเติมในด้านต่างๆ ดังนั้นเราจะต้องรู้ว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ค่า Bounce นั้นเพิ่มสูงขึ้นเพื่อที่จะนำไปหาวิธีในการปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อพัฒนาวิธีทําการตลาดออนไลน์ผ่านโฆษณา google adwordsต่อไป ซึ่งการที่ค่า Bounce rate คือสิ่งที่สูงนั้นก็มาจากหลายเหตุผลที่อาจเกิดขึ้นจากระบบต่างๆ ภายในเว็บไซต์ การออกแบบ UX UI ไม่ว่าจะเป็น

  • Pop-up ads โฆษณาต่างๆ ที่เด้งขึ้นมาตั้งแต่แรกที่เข้าสู่เว็บไซต์
  • เว็บมีโฆษณามากเกินไป
  • ดีไซน์ของตัว Landing Page เราเอง
  • หน้าเว็บไซต์เรามีการประมวลผลและโหลดช้าเกินไป
  • คำที่เราใช้เขียนบน SEM (Ad Text) กับข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ไม่ตรงกัน
  • ข้อมูลบนเว็บไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการของคนที่เข้ามา
  • หรืออาจจะเป็นไปได้ว่า ผู้เข้าสู่เว็บไซต์นั้นเจอข้อมุลที่เค้าตามหาครบแล้ว ก็เลยออกจากเว็บของเรา ก็เป็นไปได้

เมื่อรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้ค่าbounce rate google analytics คือค่าที่สูงแล้วทีนี้ เราจะมาแนะนำวิธีลดค่า Bounce ลง ซึ่งเป็นการปรับปรุงเว็บไซต์ในรูปแบบต่างๆ ให้สอดคล้องกันนั่นก็คือ 

  • นำโฆษณา Pop Up ออกจากเว็บ ถ้ามันรบกวนผู้ใช้มากเกินไป
  • ปรับปรุง UI ของเว็บไซต์ให้ดีขึ้น ให้คนเข้ามาแล้วรู้ว่าต้องกดตรงไหน ไปไหน ทำอะไรต่อ
  • ปรับปรุงความเร็วของหน้าเว็บไซต์ (Website Speed) โดยการดู Insight จากเครื่องมือต่างๆ เช่น Google Page Insights, Google Analytics, หรือ Hotjar นั่นเอง
  • ปรับปรุงตัวบทความ Content บนเว็บของเราให้ตรงกับความต้องการของคนอ่านมากขึ้น
  • ลดจำนวน External Link บนเว็บเราลง

เทคนิคลดค่า Bounce Rate ด้วยเนื้อหาภายในเว็บไซต์

นอกจากที่เราจะสามารถลดค่า Bounce ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์ในรูปแบบต่างๆ ให้มีความสอดคล้องกันแล้ว มีอีกเทคนิคหนึ่งที่จะช่วยลดค่า Bounce ได้ นั่นก็คือการปรับปรุงเนื้อหาและ Content ภายในเว็บไซต์ ซึ่งสามารถทำได้โดย

ทำคอนเทนต์และนำเสนอเนื้อหาที่มีความน่าสนใจ

การนำเสนอเนื้อหาและคอนเทนต์ที่มีความน่าสนใจ ดึงดูดสายตา และเป็นคอนเทนต์ที่ชักจูงให้คนสนใจได้ง่ายอย่างเช่นคอนเทนต์โฆษณาลดราคา คอนเทนต์จัดโปรโมชั่น เปิดตัวสินค้าใหม่ แน่นอนว่าสิ่งนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานเกิดความสนใจและคลิปเข้าไปยังหน้าอื่นๆ ของเว็บไซต์ได้มากยิ่งขึ้น

ลิงก์เชื่อมโยงเนื้อหาที่น่าสนใจ ไปยังหน้าเว็บอื่นๆ  

การทำลิงก์เชื่อมโยงสิ่งที่น่าสนใจไปยังหน้าอื่นๆ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยดึงให้ผู้ใช้งานอยู่ในเว็บไซต์ของเราได้นานมากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อผู้ใช้งานรู้สึกและเกิดความสนใจในเนื้อหาหนึ่งและเชื่อมโยงไปยังเนื้อหาที่มีความน่าสนใจอีกเนื้อหาหนึ่ง ก็จะเกิดการคลิกเพื่อเข้าสู่หน้าถัดไป และทำให้ผู้ใช้งานอยู่ในหน้าเว็บของเราได้นานขึ้น

แทรกลิงก์ในเนื้อหาเชื่อมต่อไปยังหน้าเว็บอื่นๆ

เทคนิคต่อมาคือการอ้างอิงระหว่างคอนเทนต์ หรือสร้างลิงก์ในระหว่างคอนเทนต์เพื่อนำเข้าสู่เนื้อหาในอีกหน้าเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น หากเรากำลังพูดถึงในเรื่อง Bounce rate คืออะไร เราอาจจะสอดแทรกลิงก์ที่เชื่อมไปหน้าของบริการปรับปรุงลดค่า Bounce ได้ภายในคอนเทนต์นั่นเอง

สร้างคอนเทนต์และเนื้อหาที่มีคุณภาพ

อีกหนึ่งเทคนิคที่ขาดไปไม่ได้คือการทำเนื้อหาให้มีคุณภาพและตรงใจผู้ใช้งานอยู่เสมอ เนื้อหาที่มีคุณภาพในที่นี้คือการทำให้เนื้อหามีความน่าติดตาม มีการเรียงลำดับการนำเสนอที่น่าสนใจ และเป็นเนื้อหาที่กลุ่มเป้าหมายกำลังสนใจ รวมถึงเป็นเรื่องราวที่กลุ่มเป้าหมายหรือผู้ใช้งานจะได้รับประโยชน์เมื่อเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

เว็บไซต์ที่มี Bounce สูง

เว็บไซต์ที่มี Bounce ต่ำ

  • มี Pop-up ads โฆษณาต่างๆ เด้งขึ้นมารบกวนการเยี่ยมชมเว็บไซต์
  • ไม่มี Pop-up ads โฆษณาต่างๆ เด้งขึ้นมารบกวนการเยี่ยมชมเว็บไซต์มากเกินไป 
  • เว็บมีโฆษณามากเกินไป
  • มีเว็บโฆษณาที่ไม่บดบังเนื้อหาหรือรบกวนผู้ใช้งาน
  • ดีไซน์ Landing Page เข้าใจยาก ไม่สามารถเชื่อมโยงไปหน้าอื่นๆ ภายในเว็บได้ 
  • มีการออกแบบเว็บไซต์ได้ดี และเชื่อมโยงให้คนเข้ามาแล้วรู้ว่าต้องกดตรงไหน ไปไหน ทำอะไรต่อ
  • หน้าเว็บการประมวลผลและโหลดช้า
  • หน้าเว็บโหลดได้อย่างรวดเร็ว อย่างเหมาะสม
  • คำที่อยู่บน SEM (Ad Text) กับข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์ไม่ตรงกัน
  • มีการนำเสนอเนื้อหาที่ตรงกับข้อความที่อยู่บน SEM 
  • ข้อมูลและเนื้อหาที่อยู่บนเว็บไม่ตอบโจทย์ความต้องการของคนที่เข้ามา
  • มี Content หรือเนื้อหาที่ตอบโจทย์ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม หรือกลุ่มเป้าหมายของเว็บไซต์

เพราะ bounce rate google analytics คือสิ่งที่บอกได้ว่าเว็บไซต์ของเรานั้นมีตอบโจทย์ผู้เยี่ยมชมและเข้าสู่เว็บไซต์เพียงพอแล้วหรือยัง ADME จึงขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักว่าBounce rate คืออะไร โดยคำนวณและตรวจสอบค่า Bounce Rate ให้ดี เพื่อพัฒนาเว็บไซต์และการปรับกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ผ่านโฆษณา google adwordsและทำการทำ google adsได้ย่างมีประสิทธิภาพ !!

..มองหาผู้ช่วยด้านการตลาดออนไลน์และแหล่งรวมวิธีทำการตลาดออนไลน์ดี ๆ ต้องที่ ADME ..