Skip to content
Lookalike Audience คืออะไร?
Table of Contents

ปลดล็อกยอดขายด้วย Lookalike Audience ตัวช่วยยิงแอดให้ตรงกลุ่ม

หากคุณเคยยิงแอดแล้วแต่ไม่เห็นผล หรือรู้สึกว่างบโฆษณาเพิ่มแต่ยอดขายไม่ขยับ ลองหันมาใช้ Lookalike Audience คือเครื่องมือสำคัญบนแพลตฟอร์มโฆษณาที่ช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ที่มีพฤติกรรมคล้ายกับลูกค้าเดิมของคุณได้อย่างแม่นยำ ซึ่งหลายคนอาจคุ้นกับชื่อ Look Alike Facebook ที่ใช้กันแพร่หลาย โดยหลักการทำงานของ Lookalike Audience เป็นการอ้างอิงข้อมูลจาก Custom Audience คือกลุ่มลูกค้าที่คุณมีอยู่แล้ว แล้วระบบจะช่วยค้นหาคนใหม่ ๆ ที่น่าจะเป็นลูกค้าได้เช่นกัน พูดง่าย ๆ Look Alike คือตัวช่วยยิงแอดตรงกลุ่ม เป้าหมายคล้ายลูกค้าเดิม เพิ่มโอกาสปิดการขายได้มากขึ้น

เพื่อให้ผู้ที่ยังไม่เคยใช้ Lookalike Audience ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น บทความนี้ ADME บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวางกลยุทธ์ยิงแอด จะมาช่วยแนะนำแบบเข้าใจง่ายว่า Lookalike Audience คืออะไร? แตกต่างจาก Custom Audience อย่างไร? และมีเทคนิคอะไรบ้างที่จะช่วยให้ Lookalike Audience ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

รู้จัก Lookalike Audience เครื่องมือยิงโฆษณาให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย

Lookalike Audience คือฟีเจอร์ทรงพลังบนแพลตฟอร์มโฆษณาอย่าง Facebook หรือที่หลายคนเรียกกันว่า Look Alike Facebook (Meta Ads) ที่ช่วยให้คุณขยายฐานลูกค้าใหม่ได้ง่ายขึ้น โดยระบบจะใช้ข้อมูลจากลูกค้าเดิมของคุณ มาสร้างกลุ่มเป้าหมายที่มีพฤติกรรมและความสนใจใกล้เคียงกัน ทำให้โฆษณาของคุณไปถึงคนที่น่าจะชอบและสนใจสินค้าหรือบริการของคุณจริง ๆ

ระบบ AI ของ Facebook จะทำการวิเคราะห์ข้อมูลจาก Custom Audience ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่คุณสร้างขึ้นจากข้อมูลลูกค้าจริง เช่น ลูกค้าเก่า ผู้ที่เคยเยี่ยมชมเว็บไซต์ คนที่ทักแชต กดไลก์เพจ หรือมีปฏิสัมพันธ์กับโพสต์และวิดีโอต่าง ๆ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาใช้เพื่อค้นหากลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีพฤติกรรมและความสนใจใกล้เคียงกัน ซึ่งเรียกว่าการสร้าง Look Alike หรือการหากลุ่มเป้าหมายที่เหมือนหรือคล้ายกับกลุ่มลูกค้าเดิม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยิงโฆษณา ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือ คุณยิงโฆษณาได้แม่นยำ และเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าใหม่จะสนใจและตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ

ไขกลไก Lookalike Audience พร้อมขั้นตอนทำงานและตัวอย่างจริง!

Lookalike Audience ทำงานโดยใช้ระบบ AI อัจฉริยะวิเคราะห์ข้อมูลจากกลุ่ม Custom Audience ที่คุณสร้างขึ้น เช่น รายชื่อลูกค้าเก่า หรือผู้ที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับเพจของคุณ จากนั้นระบบจะค้นหากลุ่มคนที่มีพฤติกรรม ความสนใจ และข้อมูลประชากรที่ใกล้เคียงกันในวงกว้าง แล้วสร้างกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีลักษณะคล้ายกับลูกค้าเดิมของคุณ ช่วยให้คุณยิงโฆษณาได้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสสนใจสินค้าหรือบริการมากขึ้น ส่งผลให้การขยายฐานลูกค้าเป็นไปอย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

เพื่อให้เห็นภาพขั้นตอนการทำงานของ Lookalike Audience ชัดเจนขึ้น ทาง ADME Media ได้รวบรวมขั้นตอนสำคัญมาให้เข้าใจง่าย ๆ ดังนี้

ขั้นตอนการทำงานของ Lookalike Audience?

ขั้นตอนการทำงานของ Lookalike Audience

เริ่มจากการสร้าง Custom Audience คือกลุ่มเป้าหมายที่คุณรวบรวมจากข้อมูลคุณภาพ เช่น รายชื่อลูกค้าเก่า, คนที่เคยเข้าชมเว็บไซต์ หรือผู้ที่มีส่วนร่วมกับเพจของคุณ

แพลตฟอร์มจะทำการวิเคราะห์ข้อมูลของกลุ่มต้นทางอย่างละเอียด ทั้งในเรื่องความสนใจ พฤติกรรม อายุ เพศ และตำแหน่งที่ตั้ง เพื่อค้นหาลักษณะสำคัญของกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นขั้นตอนหลักของการสร้าง Look Alike คือการระบุคุณสมบัติที่เหมือนหรือตรงกับกลุ่มลูกค้าเดิมอย่างละเอียด

จากนั้นระบบจะค้นหากลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับกลุ่มต้นทางในพื้นที่ที่คุณเลือก เช่น ประเทศหรือจังหวัด เรียกได้ว่าเป็นฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ Look Alike Facebook ช่วยให้คุณขยายฐานลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คุณสามารถกำหนดขนาดกลุ่ม Lookalike Audience ได้ตั้งแต่ 1% ซึ่งเป็นกลุ่มที่เหมือนต้นทางที่สุด ไปจนถึง 10% ที่จะเป็นกลุ่มกว้างขึ้นแต่ความคล้ายคลึงลดลง

นำกลุ่ม Lookalike Audience ไปใช้ในแคมเปญโฆษณา ติดตามผลยอดขายหรือ Engagement เพื่อปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมและเพิ่มประสิทธิภาพ

ตัวอย่างการใช้ Lookalike Audience

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเครื่องสำอาง

สร้างกลุ่ม Custom Audience จากกลุ่มลูกค้าที่ซื้อสินค้าประจำ จากนั้นตั้งค่า Lookalike Audience ขนาด 1% เพื่อหาเป้าหมายใหม่ที่มีพฤติกรรมและความสนใจใกล้เคียงกัน
ตามหลักการของ Look Alike คือการขยายกลุ่มเป้าหมายผ่านข้อมูลต้นทาง ผลลัพธ์คือยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 40% ภายใน 2 เดือน พร้อมกับค่าโฆษณาต่อ Conversion ที่ลดลงอย่างชัดเจน

ฟิตเนสเซ็นเตอร์

ใช้ข้อมูลสมาชิกที่มีการใช้งานสูงเป็นกลุ่มต้นทาง สร้าง Lookalike Audience ขนาด 3% เพื่อขยายฐานลูกค้าในพื้นที่ใกล้เคียง โดยอาศัยฟีเจอร์ของ Look Alike Facebook
พบว่ามีผู้สมัครสมาชิกเพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับแคมเปญก่อนหน้า

ร้านอาหารท้องถิ่น

สร้างกลุ่ม Custom Audience จากกลุ่มลูกค้าประจำที่เคยจองโต๊ะหรือสั่งอาหารออนไลน์ จากนั้นสร้าง Lookalike Audience เพื่อยิงโฆษณาหากลุ่มคนในพื้นที่ที่มีลักษณะคล้ายลูกค้าเดิมตามหลักการของ Look Alike คือพบว่าจำนวนการจองโต๊ะและยอดสั่งอาหารออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเวลาอันรวดเร็ว

เจาะลึกความต่างระหว่าง Lookalike Audience และ Custom Audience

สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มยิงโฆษณาบน Facebook หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ อาจยังไม่แน่ใจว่า Lookalike Audience กับ Custom Audience แตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกใช้อย่างไรให้เหมาะกับแคมเปญของตัวเอง วันนี้ทาง ADME เอเจนซี่รับทำการตลาดออนไลน์และรับจ้างยิงแอดโฆษณา จะมาอธิบายให้เข้าใจ พร้อมแนะนำวิธีการเลือกใช้อย่างตรงจุด เพื่อช่วยให้โฆษณาของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุด

Custom Audience คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญในโฆษณาออนไลน์

Custom Audience คือกลุ่มเป้าหมายที่คุณสร้างขึ้นจากข้อมูลของลูกค้าหรือผู้ที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจของคุณ เช่น

  • รายชื่อลูกค้าที่เคยซื้อสินค้า
  • คนที่เคยเข้าชมเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของคุณ
  • รวมถึงคนที่เคยดูวิดีโอ หรือกดไลก์เพจของคุณ


กลุ่มเป้าหมายเหล่านี้เรียกว่า “กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ” เพราะเป็นคนที่คุณรู้จักอยู่แล้ว คุณจึงสามารถยิงโฆษณาไปหากลุ่มนี้โดยตรง เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำ หรือเพิ่มการมีส่วนร่วมกับธุรกิจได้ง่ายขึ้น

ความต่างระหว่าง Lookalike Audience และ Custom Audience

จุดเปรียบเทียบ Lookalike Audience Custom Audience
ข้อมูลต้นทาง ข้อมูลลูกค้าเก่าหรือผู้ที่เคยมีปฏิสัมพันธ์ ใช้ Custom Audience เป็นฐานในการหาคนที่คล้ายกัน
กลุ่มเป้าหมาย คนที่รู้จักและเคยติดต่อกับธุรกิจคุณ คนใหม่ที่มีพฤติกรรมใกล้เคียงกับลูกค้าเก่า
วัตถุประสงค์การใช้งาน กระตุ้นลูกค้าเก่าให้กลับมาซื้อซ้ำ/เพิ่ม Engagement ขยายฐานลูกค้าใหม่ เพิ่มโอกาสขายสินค้า
ความแม่นยำในการเข้าถึง แม่นยำสูงเพราะเป็นคนที่มีข้อมูลชัดเจน มีความแม่นยำขึ้นอยู่กับขนาดกลุ่มที่เลือก (1%-10%)
ตัวอย่างการใช้งาน รีมาร์เก็ตติ้ง (Retargeting) ยิงแอดให้ลูกค้าเก่า หาลูกค้าใหม่ที่คล้ายกับลูกค้าเก่า

จากข้อมูลข้างต้น หากคุณต้องการกระตุ้นให้ลูกค้าเก่าหรือกลุ่มที่เคยแสดงความสนใจกลับมาซื้อซ้ำ การเลือกใช้ Custom Audience จะเหมาะสมที่สุด เพราะกลุ่มนี้มีแนวโน้มในการตัดสินใจซ้ำได้ง่ายกว่า แต่ถ้าเป้าหมายของคุณคือการขยายตลาดและหาลูกค้าใหม่ที่มีพฤติกรรมคล้ายกับลูกค้าเดิม แนะนำให้เลือกใช้ Lookalike Audience ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้ที่มีแนวโน้มสนใจสินค้าและบริการของคุณมากขึ้น

รวมแพลตฟอร์มสร้าง Look Alike Audience ที่นักการตลาดต้องรู้!

การยิงแอดให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุดไม่ใช่แค่การใช้คอนเทนต์ที่โดนใจ แต่ยังต้องเลือกใช้เครื่องมือ Lookalike Audience จากแต่ละแพลตฟอร์มให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานในแต่ละช่องทางด้วย วันนี้ ADME ได้รวม แพลตฟอร์มยอดนิยมที่นักการตลาดควรรู้จักและใช้ให้เป็น เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีแนวโน้ม “ใช่” สำหรับธุรกิจของคุณมากที่สุด

รวมแพลตฟอร์มสร้าง Look Alike Audience ที่นักการตลาดต้องรู้

Facebook Ads

แพลตฟอร์มโฆษณายอดนิยมที่มีฟีเจอร์ Lookalike Audience ที่โดดเด่นและแม่นยำที่สุด โดยใช้ข้อมูลจาก Custom Audience คือกลุ่มลูกค้าเดิม เช่น รายชื่ออีเมล หรือผู้ติดตามแฟนเพจ เพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีพฤติกรรมและความสนใจคล้ายกัน ฟีเจอร์นี้เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของ Look Alike Facebook ที่ช่วยให้การยิงโฆษณาเข้าถึงคนที่มีแนวโน้มซื้อสูง

  • เหมาะสำหรับ: ธุรกิจทุกประเภทที่ต้องการขยายฐานลูกค้า
  • ข้อดี: ตั้งค่าระดับความคล้ายคลึง (1-10%) ได้ และเลือกตามประเทศได้ด้วย


Google Ads

แม้จะไม่ได้ใช้คำว่า Lookalike ตรง ๆ แต่ Google Ads เคยใช้ชื่อว่า Similar Audiences และปัจจุบันพัฒนาเป็น Optimized Targeting ซึ่งมีหลักการทำงานคล้ายกับ Lookalike Audience โดยจะวิเคราะห์จากผู้ที่เคยเข้าเว็บไซต์หรือทำ Conversion แล้วขยายกลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติม

  • เหมาะสำหรับ: ธุรกิจที่มีเว็บไซต์และต้องการเพิ่ม Conversion
  • ข้อดี: ขยายกลุ่มเป้าหมายได้ทั้งบน Google Search, Display, YouTube และอื่น ๆ


TikTok Ads

TikTok For Business ก็มีฟีเจอร์ Lookalike Audience โดยใช้ข้อมูลจาก Custom Audience คือรายชื่อผู้ใช้งาน, คนที่เคยดูวิดีโอ หรือข้อมูลจาก TikTok Pixel เพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายที่มีลักษณะใกล้เคียงกับลูกค้าเดิมในระดับต่าง ๆ เช่น แคบ ปานกลาง หรือกว้าง

  • เหมาะสำหรับ: แบรนด์ที่เน้นการสร้างการรับรู้ในกลุ่มคนรุ่นใหม่
  • ข้อดี: สร้าง Lookalike จากกิจกรรมบน TikTok ได้โดยตรง เช่น การมีส่วนร่วมกับวิดีโอ


X (Twitter) Tailored Audiences

แม้ว่า X หรือ Twitter จะไม่ได้ใช้ชื่อว่า Lookalike Audience โดยตรง แต่ก็มีฟีเจอร์ Tailored Audiences ที่ทำหน้าที่คล้ายคลึงกัน ด้วยการสร้างกลุ่มเป้าหมายจากคนที่เคยคลิกลิงก์, มี Engagement กับทวีต หรือกดติดตาม

  • เหมาะสำหรับ: แบรนด์ที่ทำแคมเปญ Awareness และ Engagement
  • ข้อดี: เจาะกลุ่มที่มีความสนใจใกล้เคียงกันได้บน X (Twitter) Timeline

 
YouTube

แม้ YouTube จะอยู่ในเครือของ Google Ads แต่ก็มีความโดดเด่นในเรื่องของการสร้าง Video Viewers Lookalike Audience โดยใช้ข้อมูลจากคนที่เคยดูวิดีโอของคุณ แล้วขยายกลุ่มไปหาคนที่มีพฤติกรรมคล้ายกัน 

  • เหมาะสำหรับ: ธุรกิจที่ใช้วิดีโอในการทำตลาดเป็นหลัก
  • ข้อดี: เน้นสร้างการรับรู้แบรนด์และเพิ่มยอดวิว/Conversion ได้ดี


ทำไมแบรนด์ใหญ่ถึงเลือกใช้ Lookalike Audience ในการตลาดออนไลน์?

ในยุคที่การแข่งขันทางการตลาดทวีความรุนแรงมากขึ้น แบรนด์ใหญ่หลายแห่งจึงหันมาใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย หนึ่งในเครื่องมือยอดนิยมที่ได้รับความสนใจอย่างมากคือ Lookalike Audience ซึ่งช่วยให้สามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่ที่มีแนวโน้มสนใจแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่คล้ายลูกค้าจริง

Lookalike Audience คือฟีเจอร์ที่ใช้ข้อมูลจากลูกค้าหลักของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เคยซื้อสินค้า กรอกแบบฟอร์ม หรือคลิกโฆษณา จากนั้นระบบจะวิเคราะห์และค้นหาผู้ใช้งานที่มีพฤติกรรมใกล้เคียงกัน เพื่อยิงแอดไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีแนวโน้มสนใจเช่นเดียวกัน ทำให้ไม่ต้องเดาว่าควรยิงโฆษณาไปหาใคร เพราะแบรนด์สามารถนำข้อมูลจาก Custom Audience มาต่อยอด สร้าง Lookalike Audience ที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เพิ่มยอดขาย พร้อมวัดผลได้จริง

เพราะกลุ่มเป้าหมายถูกคัดมาจากพฤติกรรมจริงของผู้บริโภค ทำให้มีโอกาสสูงที่จะเกิดการมีส่วนร่วม เช่น คลิก ลงทะเบียน หรือซื้อสินค้า

หลายแบรนด์พบว่าแคมเปญที่ใช้ Look Alike Facebook มีอัตราการคลิก (CTR) และผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) สูงกว่าการยิงแอดแบบเจาะกลุ่มกว้างทั่วไป เหมาะมาก
กับการทำ Performance Marketing ที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจน

ลดต้นทุนโฆษณาในระยะยาว

แม้จะไม่ได้เห็นต้นทุนที่ลดลงในทันที แต่การยิงโฆษณาไปยังกลุ่มที่ใช่ตั้งแต่เริ่มต้น ช่วยประหยัดงบที่อาจเสียไปกับการลองผิดลองถูก และยังสามารถนำข้อมูลจากแคมเปญที่ได้ผลดี มาขยาย Lookalike Audience ต่อได้อีกในอนาคต

แบรนด์ชั้นนำจึงมองว่า Lookalike Audience คือการลงทุนกับความแม่นยำมากกว่าการหว่านโฆษณาแบบหวังโชคช่วย

6 เทคนิคที่ช่วยให้ Lookalike Audience ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

แม้ว่า Lookalike Audience จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ยิงแอดตรงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การใช้งานอย่างมีกลยุทธ์จะยิ่งช่วยให้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น มาดู 6 เทคนิค
จากนักการตลาดมืออาชีพของ ADME บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ที่เชี่ยวชาญด้านการรับยิงแอดที่นำมาฝาก เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Lookalike Audience กัน

1. เริ่มจากแหล่งข้อมูลคุณภาพสูง ก่อนสร้าง Lookalike

ไม่ควรสร้าง Lookalike Audience จากข้อมูลที่กว้างเกินไป เพราะคุณภาพของข้อมูลต้นทาง เช่น ลูกค้าที่เคยซื้อจริง หรือกลุ่มที่มีมูลค่าการซื้อสูง จะส่งผลโดยตรงต่อ
ความแม่นยำของกลุ่ม Lookalike ที่ถูกสร้างขึ้น

2. ใช้ขนาดกลุ่ม Lookalike ให้เหมาะสม

ปัจจุบันหลายแพลตฟอร์ม เช่น Facebook เปิดโอกาสให้เลือกขนาดกลุ่ม Lookalike ได้ตั้งแต่ 1%, 3% ไปจนถึง 5% ของประชากรในประเทศนั้น ๆ

  • ขนาดเล็ก (1%) = กลุ่มที่คล้ายลูกค้าของคุณมากที่สุด → แม่นยำสูง
  • ขนาดใหญ่ (5%) = ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายกว้างขึ้น แต่ความแม่นยำจะลดลง

3. ทดสอบหลายชุด Lookalike เพื่อเปรียบเทียบผล

อย่ายิงแอดจากชุดเดียวเท่านั้น โดยแนะนำให้ลองสร้าง Lookalike Audience หลายชุดจากแหล่งข้อมูลต่างกัน เช่น

  • กลุ่มลูกค้าซื้อซ้ำ
  • คนที่ดูวิดีโอจนจบ
  • ผู้ที่เคยกรอกแบบฟอร์ม


แล้วนำผลจากแต่ละแหล่งข้อมูลมาวิเคราะห์และเปรียบเทียบกัน จะช่วยให้เห็นภาพชัดเจนว่าแหล่งใดให้ข้อมูลที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับความต้องการมากที่สุด อีกทั้งยังช่วยลดเวลาและทรัพยากรในการเลือกใช้ข้อมูลที่ไม่ตอบโจทย์

4. ผสานกับการทำ Custom Audience เพื่อรีมาร์เก็ตติ้ง

Custom Audience คือกลุ่มเป้าหมายที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ เช่น คนที่เคยเข้าเว็บไซต์ หรือคลิกโฆษณา ซึ่งสามารถนำมาสร้าง Lookalike Audience ต่อได้ โดยการผสานทั้งสองกลุ่มเข้าด้วยกัน จะช่วยให้แคมเปญมีทั้งการหาลูกค้าใหม่และการดูแลกลุ่มเก่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. สื่อโฆษณาต้องตรงใจกลุ่ม Lookalike

แม้จะเลือกกลุ่มเป้าหมายแม่นยำแค่ไหน แต่ถ้าเนื้อหาโฆษณาหรือครีเอทีฟไม่โดนใจ กลุ่มเป้าหมายก็อาจไม่ตอบสนอง ดังนั้น ควรเลือกใช้ภาพและวิดีโอที่น่าสนใจ รวมถึงเขียนข้อความที่ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย

6. ติดตามผลและปรับแต่งอย่างสม่ำเสมอ

ยิงแอดโฆษณาแล้วไม่ควรปล่อยผ่าน ต้องติดตาม KPI เช่น CTR, Conversion Rate หรือ Cost per Lead อย่างสม่ำเสมอ จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาใช้ปรับกลุ่มเป้าหมายและคอนเทนต์ให้ตรงมากขึ้น และอาจนำผลลัพธ์ไปสร้าง Lookalike Audience ชุดใหม่ เพื่อขยายโอกาสทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง

5 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การสร้าง Lookalike Audience ไม่สำเร็จ!

แม้ว่า Lookalike Audience คือเครื่องมือที่ทรงพลัง ช่วยขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หลายครั้งการสร้างกลุ่มนี้กลับไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้โฆษณาของคุณไม่ตรงใจลูกค้า และพลาดโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย

วันนี้ ADME Media ขอพาคุณไปเจาะลึก 5 ปัจจัยสำคัญที่มักเป็นสาเหตุให้ Lookalike Audience ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมและปรับแก้ได้อย่างถูกจังหวะ ไม่พลาดโอกาสทองในการขยายฐานลูกค้า

1. ข้อมูลต้นทางคุณภาพต่ำหรือไม่เพียงพอ

กลุ่ม Lookalike Audience ถูกสร้างขึ้นจากข้อมูลลูกค้าต้นทาง หากฐานข้อมูลที่ใช้มีคุณภาพต่ำ เช่น ข้อมูลเก่า ลูกค้าที่ไม่เคยซื้อจริง หรือจำนวนข้อมูลน้อยเกินไป ระบบก็จะไม่สามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายที่แม่นยำได้ ทำให้ผลลัพธ์แคมเปญลดลง

2. เลือกขนาดกลุ่ม Lookalike ไม่เหมาะสม

การตั้งขนาดกลุ่ม Lookalike กว้างเกินไป อาจทำให้กลุ่มเป้าหมายมีความหลากหลายจนไม่ตรงกับลูกค้าจริง ในขณะที่ถ้าเลือกกลุ่มเล็กเกินไป ก็อาจเข้าถึงผู้คนได้น้อยเกินไป ส่งผลให้โฆษณาไม่เกิดประสิทธิผลตามที่ต้องการ

3. ขาดการทดสอบ A/B กับหลายกลุ่มและคอนเทนต์

การยิงโฆษณาแค่กลุ่มเดียว หรือใช้คอนเทนต์เดิมซ้ำ ๆ จะทำให้พลาดโอกาสค้นหากลยุทธ์ที่ดีที่สุด การทดสอบกับหลายกลุ่มเป้าหมายและเนื้อหาหลากหลาย จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ Lookalike Audience ทำงานได้อย่างเต็มที่

4. ไม่ติดตามผลและปรับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง

การตั้งค่า Lookalike Audience ไม่ใช่แค่ปล่อยให้มันทำงานไปเฉย ๆ แต่ต้องคอยติดตามผลลัพธ์ เช่น อัตราการคลิก (CTR), ค่าใช้จ่ายต่อคลิก (CPC) และอัตราการแปลง (Conversion Rate) เพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เหมาะสมและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

5. คอนเทนต์และข้อความไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย

แม้จะสร้างกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำ แต่ถ้าคอนเทนต์หรือข้อความโฆษณาไม่ตรงกับความต้องการหรือความสนใจของกลุ่มนั้น โฆษณาก็ยากจะทำงานได้ดี การเข้าใจและนำเสนอเนื้อหาที่โดนใจลูกค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก

เห็นได้ว่า Lookalike Audience ไม่ใช่แค่เครื่องมือช่วยยิงแอดเพื่อเจอกลุ่มคนใหม่ ๆ แต่ Lookalike Audience คือกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนผู้สนใจเป็นลูกค้าจริง เพราะ Custom Audience คือการเก็บกลุ่มลูกค้าเดิมเพื่อรีมาร์เก็ตติ้งอย่างแม่นยำ โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์ม Look Alike Facebook ที่มีระบบวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง ทำให้ Look Alike คือกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มโอกาสปิดการขายและเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ ถ้าคุณต้องการทีมมืออาชีพวางแผนและจัดการ Lookalike Audience อย่างมีประสิทธิภาพ ทีม ADME พร้อมช่วยธุรกิจคุณก้าวสู่ความสำเร็จ ติดต่อเราเริ่มสร้างแคมเปญที่ได้ผลจริงวันนี้