Skip to content

ADME

MarTech คืออะไร สำคัญอย่างไร

MarTech คือเทคโนโลยีและเครื่องมือแห่งยุคที่ตอบโจทย์การทำการตลาดออนไลน์

MarTech คืออะไร? ในยุคนี้ไม่ว่าจะหันไปทางไหนเราก็มักจะได้ยินคนพูดเกี่ยวกับ ‘MarTech’ หรือ ‘Marketing Technology’ ซึ่งแน่นอนว่าก็จะมีทั้งคนที่รู้จัก MarTech อยู่แล้วและคนที่ไม่ได้รู้จัก MarTech สักเท่าไหร่ แต่ถ้าพูดให้เข้าใจง่าย ๆ เกี่ยวกับความหมายของ MarTech หรือ Marketing Technology คืออะไรนั้น จริง ๆ แล้ว MarTech คือชื่อเรียกสั้น ๆ ของ Marketing Technology เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เข้ามามีส่วนช่วยในการทำการตลาดออนไลน์และการทำกิจกรรมทางการตลาดในรูปแบบต่าง ๆ ให้เกิดความคล่องตัว รวดเร็ว และได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น 

เรียกได้ว่า MarTech คือสิ่งที่สามารถตอบโจทย์การทำการตลาดออนไลน์ในยุคนี้ให้ดีขึ้นกว่าในอดีตเลยก็ว่าได้ เนื่องจาก MarTech คือเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ครอบคลุมตั้งแต่แพลตฟอร์ม ซอฟต์แวร์ ไปจนถึงเครื่องมือมากมายที่ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมเรื่องการทำการตลาดโดยเฉพาะ การเลือกใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำการตลาดออนไลน์ตั้งแต่การวางแผนไปจนถึงการวัดผลแคมเปญที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่การเลือกใช้ MarTech ที่เหมาะสม ยังช่วยให้ได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรม ความชอบ และความต้องการของลูกค้า ซึ่งนำไปสู่แคมเปญการตลาดเฉพาะบุคคลที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น

จุดเริ่มต้นของ MarTech คือ

โดยจุดเริ่มต้นของ MarTech คือการที่ธุรกิจและนักการตลาดต่างมองหาวิธีการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ และปรับปรุงประสิทธิภาพการตลาดโดยรวม ด้วยการแสวงหาสิ่งใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ จึงทำให้ MarTech เข้ามามีบทบาทกับการทำการตลาดออนไลน์ที่ครอบคลุมเครื่องมือ แพลตฟอร์ม และซอฟต์แวร์ที่หลากหลายเพื่อปรับปรุงการทำการตลาดผ่านช่องทางต่าง ๆ ตั้งแต่การวิเคราะห์ข้อมูลและระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ไปจนถึงระบบอัตโนมัติและแอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นต้น

หลังจากที่ได้รู้จักกับความหมายของ MarTech และจุดเริ่มต้นของ MarTech กันไปแล้ว สำหรับใครที่อยากรู้จักเกี่ยวกับ MarTech เพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น วันนี้ ADME ได้รวบรวมของ MarTech ในด้านอื่น ๆ มาฝากทุกคนแล้วที่นี่ ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้น ตามไปอ่านต่อกันได้เลย!

ความสำคัญของ MarTech ต่อนักการตลาดออนไลน์

ก่อนหน้านี้เราได้รู้กันไปแล้วว่า MarTech คือตัวช่วยในการทำการตลาดที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำการตลาดออนไลน์ตั้งแต่การวางแผนไปจนถึงการวัดผลแคมเปญ แต่ถ้าให้เจาะลึกเป็นข้อ ๆ ไปว่า MarTech นี้มีความสำคัญกับนักการตลาดอย่างไรบ้าง ADME ได้แบ่งเป็น 5 ข้อย่อย ๆ ดังนี้

จัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการตลาดที่มีมากมายได้เป็นอย่างดี

วิเคราะห์ข้อมูลและออกแบบกลยุทธ์การตลาใหเ้ประสิทธิภาพมากขึ้น

ลดเวลาในการทำงานด้านการตลาด อำนวยความสะดวกให้กับนักการตลาด

ผสมผสานการทำการตลาดแบบ Omni Channel ให้ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น

เพิ่มประสิทธิภาพการตลาดในแบรนด์สินค้าหรือธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น

1. จัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการตลาดที่มีมากมายได้เป็นอย่างดี

จากภาพรวมของการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลในปัจจุบัน แน่นอนว่านักการตลาดต้องจัดการกับข้อมูลจำนวนมหาศาลจากแหล่งต่าง ๆ มากขึ้น เช่น ข้อมูลลูกค้า แนวโน้มของตลาด รวมถึงการใช้เมตริกต่างๆ ในการวัดผลประสิทธิภาพแคมเปญ เป็นต้น และด้วยข้อมูลที่มากมายมหาศาลที่ต้องจัดการนี้เองทำให้ความสำคัญของ MarTech เข้ามามีบทบาทกับการทำงานของนักการตลาดมากยิ่งขึ้น

เนื่องจากความสามารถของ MarTech คือสามารถเป็นทั้งเครื่องมือจัดเก็บข้อมูลและเครื่องมือวิเคราะห์ที่ช่วยให้นักการตลาดสามารถรวบรวม จัดเก็บ และประมวลผลข้อมูลนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยข้อมูลที่จัดระเบียบและเข้าถึงได้เพียงปลายนิ้ว นักการตลาดสามารถตัดสินใจได้อย่างรอบคอบและได้รับข้อมูลเชิงลึกเพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์ในการทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างเช่น ซอฟต์แวร์การจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) ช่วยติดตามการโต้ตอบกับลูกค้า ประวัติการซื้อ และการตั้งค่าได้แบบเรียลไทม์ เรียกได้ว่าซอฟต์แวร์การจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) ที่เป็นส่วนหนึ่งของ MarTech คือตัวช่วยที่ช่วยให้นักการตลาดสร้างแคมเปญส่วนบุคคล ปรับปรุงการรักษาลูกค้า และส่งเสริมความภักดีของลูกได้นั่นเอง

2. วิเคราะห์ข้อมูลและออกแบบกลยุทธ์การตลาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ด้วยความที่ Martech สามารถตอบโจทย์การทำการตลาดได้ดีทั้งในเรื่องของการวางแผนไปจนถึงการวัดผลแคมเปญ เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้นักการตลาดสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรม ความชอบ และการโต้ตอบของลูกค้ากับแคมเปญการตลาดได้ดีขึ้น

ซึ่งข้อมูลที่ได้มากจาก MarTech นี้ จะช่วยให้นักการตลาดสามารถระบุรูปแบบ แนวโน้ม และส่วนที่ควรปรับปรุงของการทำการตลาดซึ่งนำไปสู่การสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดที่ตรงเป้าหมายและสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างเช่น Web Analytic หรือเครื่องมือการวัดผลการเยี่ยมชมเว็บไซต์สามารถเปิดเผยได้ว่าหน้าเว็บใดได้รับการเข้าชมมากที่สุด หรือแคมเปญการตลาดใดทำให้เกิด Conversion สูงสุด เป็นต้น ด้วยข้อมูลนี้จาก Web Analytic ต่าง ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของ MarTech ช่วยให้นักการตลาดสามารถเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์ของตนเพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้นและได้รับอัตราการมีส่วนร่วมที่สูงขึ้นได้

3. ลดเวลาในการทำงานด้านการตลาด อำนวยความสะดวกให้กับนักการตลาด

MarTech คือเทคโนโลยี หรือเครื่องมือด้านการตลาดแบบอัตโนมัติที่ช่วยจัดการกับข้อมูลต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยกระบวนการอัตโนมัติทำให้นักการตลาดไม่ต้องทำงานแบบซ้ำ ๆ อย่างการส่งแคมเปญอีเมลที่มีส่วนลดหาลูกค้า การตั้งเวลาลงโพสต์ในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย หรืออื่น ๆ อีกมากมาย

เรียกได้ว่าสามารถช่วยให้นักการประหยัดเวลาและมุ่งเน้นด้านกลยุทธ์การทำการตลาดได้มากขึ้น ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นจากการใช้ MarTech นี้ช่วยให้นักการตลาดสามารถสร้างสรรค์และตอบสนองต่อวิธีการดึงดูดลูกค้าและส่งเสริมแบรนด์ได้ดียิ่งขึ้น

ตัวอย่างเช่น เครื่องมืออัตโนมัติสำหรับการตลาดผ่านอีเมลสามารถส่งอีเมลส่วนบุคคลไปยังกลุ่มเฉพาะโดยอัตโนมัติตามการพฤติกรรมของลูกค้า เช่น อีเมลต้อนรับ การแจ้งเตือนรถเข็นของสินค้าเมื่อมีส่วนลด หรือการอวยพรวันเกิด เป็นต้น ระบบอัตโนมัตินี้ช่วยประหยัดเวลา เพิ่มประสิทธิภาพ และรับประกันการสื่อสารที่ตรงเวลาและตรงประเด็นกับลูกค้าได้นั่นเอง

4. ผสมผสานการทำการตลาดแบบ Omni Channel ให้ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น

MarTech คือตัวช่วยให้นักการตลาดใช้กลยุทธ์การตลาดแบบหลายช่องทางได้อย่างราบรื่นขึ้นกว่าเดิมด้วยการผสานรวมและการ Synchronize ข้อมูล ผ่านเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย อีเมล แอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ และช่องทางอื่น ๆ 

ด้วยการผสานรวมที่ราบรื่นนี้ นักการตลาดสามารถส่งข้อความที่สอดคล้องและเป็นส่วนตัวถึงลูกค้าโดยไม่คำนึงถึงช่องทางที่ใช้ได้ ทั้งนี้ยังสามารถส่งเสริมประสบการณ์ของแบรนด์ที่เหนียวแน่นและเพิ่มโอกาสในการเกิด Conversation ได้อีกด้วย 

ตัวอย่างเช่น ลูกค้าที่เรียกดูผลิตภัณฑ์บนเว็บไซต์และเพิ่มสินค้าลงในรถเข็น สามารถรับคำแนะนำส่วนบุคคลสำหรับผลิตภัณฑ์เดียวกันผ่านโฆษณาบนโซเชียลมีเดียและการตลาดทางอีเมล สร้างประสบการณ์ที่สอดคล้องกันและกระตุ้นให้เกิด Conversion ได้นั่นเอง

5. เพิ่มประสิทธิภาพการตลาดในแบรนด์สินค้าหรือธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น

ข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดของ MarTech คือความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพทางการตลาดสำหรับแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ หรือธุรกิจให้มีผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและเครื่องมือต่าง ๆ ของ MarTech นักการตลาดสามารถเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์ ปรับปรุงกระบวนการ และตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลเชิงลึกได้ดีขึ้น

Martech ช่วยให้นักการตลาดกำหนดเป้าหมายที่แม่นยำได้ดียิ่งขึ้นในแคมเปญ ด้วยการเข้าถึงการวิเคราะห์ข้อมูลที่ครอบคลุมตั้งแต่การแบ่งกลุ่มและการทดสอบ A/B ไปจนถึงการเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญและการติดตามผล แน่นอนว่าสามารถทำให้ระบุกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพสูง เข้าใจความชอบ และปรับแต่งข้อความทางการตลาดให้สอดคล้องกันได้

ตัวอย่างเช่น นักการตลาดที่ทำการตลาดให้ร้านค้าเสื้อผ้าสามารถใช้ข้อมูลจาก MarTech เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อที่ผ่านมาและพฤติกรรมของลูกค้าเพื่อระบุกลุ่มลูกค้าที่ภักดีซึ่งชื่นชอบแบรนด์เกี่ยวกับเสื้อผ้า แล้วนำข้อมูลที่ได้มาสร้างแคมเปญเฉพาะกลุ่มและส่งคำแนะนำผลิตภัณฑ์ได้ ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์ร้านค้าเสื้อผ้านี้มีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อได้รู้ถึงความสำคัญของ MarTech มีอะไรบ้างไปแล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Martech สำคัญกับการทำการตลาดออนไลน์และนักการตลาดเป็นอย่างมาก เพราะ Martech ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของ Tools สำหรับนักการตลาดในยุคนี้ไปเสียแล้ว และด้วยความที่  MarTech สามารถจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาล ดึงข้อมูลเชิงลึกแล้วนำไปใช้งานจริงได้ สามารถทำงานได้แบบอัตโนมัติ และมอบประสบการณ์ในทุกช่องทางออนไลน์ที่สอดคล้องกัน พร้อมกับปรับปรุงประสิทธิภาพทางการตลาดโดยรวมได้ จึงทำให้การทำการตลาดออนไลน์ในปัจจุบัน อย่างการโปรโมตแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ หรือธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมีผลลัพธ์ที่ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิม

รู้จักกับ 6 ประเภท MarTech

ประเภทของ MarTech มีอะไรบ้าง? ด้วยความที่ MarTech ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วทำให้ตอนนี้จำนวนของ MarTech มีมากถึง 9,000+ เลยทีเดียว ซึ่งในจำนวนที่มากมายนี้ MarTech ถูกแบ่งออกเป็น 6 ประเภท ตาม MarTech Map ที่จัดโดย Chief Marketing Technologist (CMT) ดังนี้

    • Advertising & Promotion

Advertising & Promotion MarTech คือ MarTech ที่ใช้เพื่อการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางการโฆษณาและแคมเปญส่งเสริมการขายต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น การใช้เครื่องมืออย่าง Google Ads และ Ads Manager เพื่อสร้างและจัดการแคมเปญโฆษณาที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย

    • Content & Experience

Content & Experience MarTech คือ MarTech ที่ใช้เพื่อการสร้างคอนเทนต์และมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับกลุ่มเป้าหมาย เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ทีมการตลาดสร้างและเผยแพร่คอนเทนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น การใช้ WordPress หรือ Adobe Experience Manager เพื่อจัดการเนื้อหาต่าง ๆ ภายในเว็บอย่างมีประสิทธิภาพ 

    • Social & Relationships

Social & Relationships MarTech คือ MarTech ที่ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำการตลาออนไลน์และสานสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านช่องทางต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น การใช้ Hootsuite หรือ Sprout Social ช่วยให้ทีมการตลาดสามารถกำหนดเวลา เผยแพร่ และตรวจสอบโพสต์และการโต้ตอบบนโซเชียลมีเดียได้ง่ายขึ้น ซึ่งรวมไปถึงระบบการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) อย่าง Salesforce หรือ HubSpot CRM สามารถใช้เพื่อรวมข้อมูลลูกค้าและโต้ตอบได้แบบเรียลไทม์

    • Commerce & Sales

Commerce & Sales MarTech คือ MarTech ที่ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกด้านอีคอมเมิร์ซและกระบวนการขายเพื่อให้ขั้นตอนการทำธุรกรรมออนไลน์ราบรื่น พร้อมทั้งปรับปรุงกระบวนการขาย ตัวอย่างเช่น การใช้ Shopify หรือ Magento ช่วยให้สามารถสร้างและจัดการร้านค้าออนไลน์ด้วยคุณสมบัติการจัดการสินค้าคงคลังและการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพ

    • Data

Data MarTech คือ MarTech ที่ใช้เพื่อรวบรวม วิเคราะห์ และจัดการข้อมูล เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ต่อในการสร้างกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์สำหรับการทำการตลาด ตัวอย่างเช่น การใช้ Google Analytics หรือ Adobe Analytics เพื่อดูข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเข้าชมเว็บไซต์ พฤติกรรมของผู้ใช้ และประสิทธิภาพของแคมเปญ

    • Management

Management MarTech คือ MarTech ที่ใช้เพื่อให้นักการตลาดสามารถทำงานได้ง่ายขึ้น พร้อมช่วยปรับปรุง Workflow หรือกระบวนการต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม  ตัวอย่างเช่น การใช้ Asana หรือ Trello ช่วยในการวางแผน ดำเนินการ และติดตามงานที่ต้องทำ เพื่อให้มั่นใจว่าทีมจะสามารถทำงานออกมาได้ตรงตามและเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด

นอกเหนือจากตัวอย่างของ MarTech ใน MarTech Map ทั้ง 6 ประเภทนี้ ADME ขอบอกเลยว่ายังมีเทคโนโลยีและเครื่องมือใหม่ ๆ อีกเพียบที่ตอบโจทย์กับการทำการตลาดออนไลน์ ซึ่งการเลือกใช้ MarTech แต่ละอย่างเหมาะสมจะช่วยให้สามารถทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งยังสามารถช่วยขับเคลื่อนแคมเปญการตลาดให้ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของแคมเปญได้อีกด้วย

สำหรับใครที่ได้อ่านบทความ MarTech คืออะไร สำคัญอย่างไรกับการทำการตลาดออนไลน์ พร้อมกับ 6 ประเภทของ MarTech ว่า MarTech มีอะไรบ้าง ที่ ADME ได้รวบรวมมาให้จนจบแล้ว คงจะเห็นได้ว่า MarTech คือเทคโนโลยี หรือเครื่องที่ตอบโจทย์การทำการตลาดออนไลน์แห่งยุคเลยก็ว่าได้ ซึ่งนักการตลาดสามารถเลือกใช้ MarTech ที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับการทำการตลาดได้แบบไม่มีที่สุดเลยทีเดียว สำหรับครั้งหน้า ADME จะมีข่าวสารน่ารู้ เคล็ดลับดี ๆ หรือเทรนด์การตลาดใหม่ ๆ อะไรมากฝากอีกนั้น รอติดตามกันได้เลย!