Skip to content

ADME

Conversion คืออะไร

Table of Contents

Conversion คืออะไร ทำไมการทำการตลาดออนไลน์ถึงต้องการ Conversion

Conversion คืออะไร? Conversion Rate คืออะไร? แล้วความแตกต่างของ Conversion กับ Conversion Marketing คืออะไร? ทั้ง 3 สิ่งนี้มีความสำคัญกับการทำการตลาดออนไลน์มากน้อยแค่ไหน ใครอยากรู้คำตอบวันนี้ ADME ได้รวบรวมข้อมูลพร้อมเคล็ดลับดี ๆ มาให้แล้ว

แน่นอนว่าหลาย ๆ คนที่อยู่ในแวดวงของการทำการตลาดออนไลน์คงจะคุ้นเคยกับคำว่า Conversion หรือ Conversion Rate รวมถึง Conversion Marketing เป็นอย่างดี แต่สำหรับบางคนที่ไม่ได้คลุกคลีอยู่ในแวดวงนี้อาจจะไม่ได้รู้ถึงความหมายที่แท้จริงของทั้ง 3 สิ่งนี้สักเท่าไหร่ว่า Conversion คืออะไร? Conversion Rate คืออะไร? และ Conversion Marketing คืออะไร?

แต่เราต้องขอบอกก่อนว่าทั้ง Conversion และ Conversion Rate รวมถึง Conversion Marketing นั้นมีความเกี่ยวข้องกันแต่มีความแตกต่างและมีการนำไปใช้กับการทำการตลาดออนไลน์ในบริบทที่แตกต่างกัน ซึ่งหากพูดให้เข้าใจง่าย ๆ แล้ว ความหมายทั่วไปของ Conversion คือการเปลี่ยนแปลงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่ถ้าพูดในบริบทของการทำการตลาดออนไลน์ Conversion มักเกี่ยวข้องกับการซื้อขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ โดยคำว่าการตลาด Conversion คือคำที่มีความหมายมากกว่าการขายเพียงอย่างเดียว เพราะคำนี้บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของผู้ชมจากสถานะหนึ่งไปสู่อีกสถานะหนึ่ง การดำเนินการนี้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของแคมเปญการตลาดและลักษณะของธุรกิจ หรืออีกนัยหนึ่ง Conversion ก็คือเป้าหมายที่ทางธุรกิจอยากให้ลูกค้าทำ ไม่ว่าจะเป็นการกรอกแบบฟอร์ม สมัครรับจดหมายข่าว สั่งซื้อของ หรือการกดแอด LINE OA หรือโทรจากเว็บไซต์ก็ได้เช่นกัน เรียกได้ว่า Conversion คือสิ่งที่สะท้อนถึงการมีส่วนร่วมและความสนใจจากผู้ที่มีโอกาสมาเป็นลูกค้านั่นเอง

ในทางการวัดผลแล้วนั้น เราไม่ควรนำตัวเลข Conversion มาเทียบกันโต้ง ๆ เช่น แคมเปญ A ทำแล้วได้ Conversion ทั้งหมด 10 กับแคมเปญ B ทำแล้วได้ Conversion ทั้งหมด 20 ซึ่งจำนวนตรงนี้ เราไม่สามารถที่จะเปรียบเทียบ Conversion จากแคมเปญ A และ B ได้ เนื่องจากเราไม่ทราบว่า แต่ละแคมเปญมีการใช้งบประมาณเท่ากันหรือไม่ รวมไปถึงเข้าถึงจำนวนคนได้เท่ากันหรือไม่ ดังนั้นเลยมีมาตรวัด หรือ Metrics ที่เรียกว่า Conversion Rate ขึ้นมา

 โดย Conversion Rate คือเปอร์เซ็นต์ของการทำ Conversion ที่ประสบความสำเร็จจากผู้เข้าชมทั้งหมด ซึ่ง Conversion Rate จะเทียบกับจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์หรือหน้า Landing Page ทั้งหมด ทำหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพหลัก (KPI) สำหรับนักการตลาดออนไลน์ เนื่องจากเป็นผลลัพธ์การวัดประสิทธิภาพของความพยายามในการเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมให้กลายเป็นลูกค้า อัตรา Conversion  ที่สูงขึ้นจะบ่งบอกว่าผู้เข้าชมส่วนใหญ่มีส่วนร่วมกับแบรนด์และดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่แบรนด์กำหนด สิ่งนี้นำไปสู่การเพิ่มรายได้ ROI ที่ดีขึ้น และการใช้ทำการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ส่วน Conversion Marketing คือกลยุทธ์ในการทำการตลาดออนไลน์ที่มุ่งเน้นไปที่การปรับอัตรา Conversion ให้เหมาะสม ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการใช้เทคนิคและวิธีการต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้ หรือผู้ชมดำเนินการตามที่ต้องการ เช่น การปรับปรุงการออกแบบเว็บไซต์ การสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ การใช้คำกระตุ้นการตัดสินใจ Call to Action (CTA) และการทำแคมเปญโฆษณาที่ตรงเป้าหมาย เป็นต้น ซึ่งเทคนิคทั้งหมดนี้สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการเกิด Conversion ได้นั่นเอง

ถึงแม้ Conversion และ Conversion Rate รวมถึง Conversion Marketing จะมีความแตกต่างกันในแง่ของความหมายและการนำไปใช้งาน แต่ก็มีความเกี่ยวข้องกันกับการทำการตลาดออนไลน์อย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากสามารถช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของแบรนด์ธุรกิจ เพิ่มยอดขาย ขยายฐานลูกค้า และเพิ่มการมีส่วนร่วม รวมถึงความภักดีต่อแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

ความสำคัญของ Conversion คืออะไร

Conversion คือสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากในการทำการตลาดออนไลน์และการรับยิงแอดครบวงจร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราต้องวัดผลของโฆษณา โดยเฉพาะการวัดผลแคมเปญโฆษณาของ Google Ads ซึ่งแน่นอนว่า Conversion คือสิ่งที่ทำหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพที่สำคัญที่ช่วยให้เราสามารถวัดความสำเร็จทางการทำการตลาดออนไลน์ได้

การติดตาม Conversion  ทำให้เราสามารถระบุได้ว่าโฆษณาของเราตรงใจกลุ่มเป้าหมายและกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายดำเนินการตามที่ต้องการหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ สมัครใช้บริการ ชำระเงินด้วยบัตรเครดิต หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน นอกจากนี้่ Conversion ยังสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมและความชอบของลูกค้า ด้วยการกำหนดการกระทำที่ถือเป็น Conversion ในรูปแบบต่าง ๆ 

โดยเราสามารถเข้าใจได้มากยิ่งขึ้นว่าผู้ใช้ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายโต้ตอบกับเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของเราอย่างไร ตัวอย่างเช่น การติดตามการสมัครรับจดหมายข่าว การกรอกแบบฟอร์ม หรือการดาวน์โหลดผลิตภัณฑ์ ช่วยให้เข้าใจและเรียนรู้พฤติกรรมของลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้อีกด้วย 

ซึ่ง Conversion Rate คือตัวที่บ่งชี้ที่ชัดเจนว่ากลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพของ Conversion หรือ การทำ Conversion Marketing ของเรามีประสิทธิภาพ แสดงให้เห็นว่าเราประสบความสำเร็จในการโน้มน้าวผู้เข้าชมกลุ่มเป้าหมายให้ดำเนินการตามที่ต้องการ และถ้าเรามี Conversion Rate สูงก็เท่ากับว่าการกำหนด Conversion ของเราได้ผลดีมาก ๆ นั่นเอง 

เรียกได้ Conversion คือแกนหลักของการวิเคราะห์การทำการตลาดออนไลน์เลยก็ว่าได้ เพราะสามารถทำให้เราวัดความสำเร็จของแคมเปญ วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้ และปรับกลยุทธ์เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นได้ โดยเราสามารถปรับปรุงแนวทางการทำการตลาดของเราได้อย่างต่อเนื่องและมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งนำไปสู่การมีส่วนร่วมที่สูงขึ้นและการเติบโตของธุรกิจที่เพิ่มขึ้น

วิธีคิด Conversion Rate ง่าย ๆ

เมื่อเรารู้กันไปแล้วว่า Conversion Rate คือเมตริกพื้นฐานในการทำการทำการตลาดออนไลน์และการรับยิงแอดครบวงจรที่วัดประสิทธิภาพของโฆษณาหรือแคมเปญการตลาดในการกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองที่ต้องการจากกลุ่มเป้าหมาย โดย Conversion Rate จะใช้หน่วยในการวัดเป็นเปอร์เซ็นต์ของกลุ่มเป้าหมายที่ดำเนินการบางอย่าง เช่น ซื้อสินค้า ลงชื่อสมัครใช้บริการ หรือกรอกแบบฟอร์ม รวมถึง Conversion อื่น ๆ ที่เป็นไปได้

ในการคำนวณ Conversion Rate คือเราจะต้องหารจำนวน Conversion ด้วยจำนวน Page Visit หรือคนเข้าชมเว็บไซต์ทั้งหมดในช่วงเวลาที่กำหนด (เป็นเวลาเดียวกัน) จากนั้นเราก็จะได้ผลลัพธ์ออกมาในรูปแบบของเปอร์เซ็นต์ ตัวอย่างเช่น หากมี 100 Conversion ที่เกิดจากการเข้าชมเว็บไซต์ 1,000 ครั้ง เราก็จะเอา 100 มาหารกับ 1,000 และคูณ 100 ก็จะเท่ากับ 10 หรือเขียนเป็นสมการได้ดังนี้ (100/1000)*100 = 10% ดังนั้น อัตรา Conversion จะเท่ากับ 10% นั่นเอง

เมตริกนี้มีความสำคัญอย่างมากสำหรับธุรกิจ เนื่องจากเป็นตัวบ่งชี้ที่ชัดเจนว่าผลลัพธ์ของการทำการตลาดตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายได้ดีมากน้อยเพียงใด โดย Conversion Rate ที่สูงขึ้นแสดงว่าข้อความหรือรูปภาพที่ใช้การโฆษณา การกำหนดเป้าหมาย และกลยุทธ์โดยรวมนั้นสอดคล้องกับผู้ชมที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จมากขึ้น

ขั้นตอนของการทำ Conversion Marketing คือ

อย่างที่รู้กันไปแล้วว่า Conversion Marketing คือกลยุทธ์สำหรับการทำการตลาดออนไลน์ที่มุ่งเน้นเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์หรือผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าให้เป็นลูกค้า ซึ่งวัตถุประสงค์หลักของการตลาด Conversion คือการเพิ่มประสิทธิภาพ Customer Journey ของลูกค้าทั้งหมด เพื่อให้ประสบการณ์ของลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่นและเพิ่มโอกาสในการ  Conversion สูงสุด โดยทั่วไปขั้นตอนของการทำ Conversion Marketing จะมีหลากหลายขั้นตอน รวมถึงการทำ Conversion การตลาดก็มีหลากหลายรูปแบบ แต่ถ้าให้สรุปเป็นขั้นตอนสั้น ๆ การทำการตลาด  Conversion Marketing ก็จะมีรายละเอียดดังนี้ 

ค้นหากลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจในแบรนด์โดยเฉพาะ

ขั้นตอนแรกในการทำการตลาด Conversion คือการระบุและดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมที่สนใจผลิตภัณฑ์หรือบริการของแบรนด์ ซึ่งตัวของแบรนด์เองจะต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายในอุดมคติ มีการวิจัยตลาดเพื่อระบุข้อมูลประชากร ความสนใจ และจุดที่ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าจะเปลี่ยนแปลงมาเป็นลูกค้าของทางแบรนด์ โดยในจุดนี้ทำให้ต้องมีการใช้เทคนิคการทำการตลาดที่หลากหลายเพื่อกระตุ้นการเข้าชมและสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์

ซึ่งหนึ่งในเทคนิคการทำการตลาดที่สามารถกระตุ้นการรับรู้ของแบรนด์ได้ คือการทำให้เว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือการค้นหา (SEO) เพราะเมื่อเว็บไซต์หรือเพจของแบรนด์แสดงในผลการค้นหาของผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการดึงดูดการเข้าชมแบบออร์แกนิกได้

Content Marketing ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการค้นหากลุ่มเป้าหมาย ด้วยการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่า ให้ข้อมูล และมีส่วนร่วม เช่น บล็อก โพสต์ บทความ และวิดีโอ แบรนด์ธุรกิจสามารถแสดงถึงความเชี่ยวชาญและสร้างความไว้วางใจกับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้ ซึ่งการแชร์คอนเทนต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องจะช่วยขยายการเข้าถึงและเชื่อมต่อกับบุคคลที่สนใจในอุตสาหกรรมแบบเดียวกัน

นอกจากนี้การโฆษณาแบบชำระเงิน เช่น การโฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก (PPC) บน Search Engine และโซเชียลมีเดีย ยังสามารถนำมาใช้เพื่อกำหนดเป้าหมายกลุ่มประชากรเฉพาะและเพิ่มการมองเห็นได้อีกด้วย โฆษณาเหล่านี้สามารถแสดงต่อผู้ใช้ตามคำค้นหา ความสนใจ และพฤติกรรมการท่องเว็บออนไลน์ได้

สร้างความไว้วางใจให้กับกลุ่มเป้าหมาย

เมื่อผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าเข้ามาที่เว็บไซต์หรือเพจของแบรนด์เราแล้ว ขั้นตอนสำคัญต่อไปในการทำ Conversion คือการเพิ่มความเชื่อมั่นในตัวของแบรนด์ เพราะความไว้วางใจเป็นองค์ประกอบพื้นฐานในที่กลุ่มเป้าหมายจะเปลี่ยนจะมาเป็นลูกค้า ซึ่งผู้คนมักจะซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่พวกเขาเห็นว่าน่าเชื่อถือ

เว็บไซต์หรือเพจของแบรนด์ควรมีรายละเอียดที่ชัดเจนและครอบคลุมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ รวมถึงคุณลักษณะ ประโยชน์ และราคา การรวมรีวิวและกรณีศึกษาสามารถเพิ่มหลักฐานที่น่าเชื่อถือทางสังคมและแสดงให้เห็นถึงประสบการณ์เชิงบวกของลูกค้ารายก่อน ๆ ซึ่งส่วนนี้สามารถสร้างความไว้วางใจเพิ่มเติมให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี

ที่สำคัญการสร้าง Storytelling ก็ถือเป็นเทคนิคที่มีประสิทธิภาพที่สามารถดึงดูดผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าและสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับแบรนด์ได้ การแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางของธุรกิจ ค่านิยม และความมุ่งมั่นต่อความพึงพอใจของลูกค้า สามารถทำให้แบรนด์เข้าถึงได้กลุ่มเป้าหมายและมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

นอกจากนี้ การออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้ (UX) ก็มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความไว้วางใจ เว็บไซต์หรือเพจที่ออกแบบอย่างดีและเป็นมิตรกับผู้ใช้ช่วยสร้างความประทับใจในเชิงบวกและกระตุ้นให้ผู้เข้าชมสำรวจผลิตภัณฑ์ หรือบริการเพิ่มเติมได้อีกด้วย

กระตุ้นกลุ่มเป้าหมายด้วยโปรโมชัน

ด้วยสถานะทางออนไลน์ที่น่าเชื่อถือและมีส่วนร่วม ขั้นตอนสุดท้ายในการทำการตลาด Conversion คือการผลักดันผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าไปสู่การดำเนินการต่าง ๆ ขั้นตอนนี้เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นกลุ่มเป้าหมายผ่านโปรโมชันโฆษณา หรือแคมเปญพิเศษเพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อ

การสร้างแคมเปญโฆษณาที่ตรงกลุ่มเป้าหมายด้วยข้อเสนอที่น่าสนใจ ส่วนลด หรือข้อตกลงที่มีระยะเวลาจำกัด สามารถสร้างแรงจูงใจให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าเปลี่ยนใจได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้กลยุทธ์ Remarketing หรือ Retargeting โดยแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องแก่บุคคลที่เคยเข้าชมเว็บไซต์ของแบรนด์แต่ไม่ได้ดำเนินการตามที่ต้องการ เพื่อย้ำเตือนกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ได้อีกรอบหนึ่ง

อีกหนึ่งสิ่งที่สามารถกระตุ้นกลุ่มเป้าหมายได้ก็คือ การตลาดผ่านอีเมลก็เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงในการกระตุ้น Conversion ได้เช่นกัน ด้วยการส่งอีเมลส่วนบุคคลไปยังสมาชิกของแบรนด์ บอกเลยว่าแบรนด์จะสามารถรักษาลีด ให้ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือโปรโมชันใหม่ รวมถึงยังสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้ โดยการแบ่งกลุ่มรายชื่ออีเมลตามพฤติกรรมและความสนใจของผู้ใช้จะทำให้แบรนด์มั่นใจได้ว่าแต่ละข้อความจะตรงใจ ตรงกลุ่มเป้าหมายผู้รับ

นอกจากนี้ การใช้อีเมลสำหรับรถเข็นที่มีการเพิ่มสินค้าไว้นานแล้ว อาจเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการดึงดูดผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าที่เพิ่มสินค้าลงในรถเข็นแต่ไม่ได้ทำการซื้อให้เสร็จสมบูรณ์ได้ อีเมลเหล่านี้อาจรวมถึงการแจ้งเตือนเล็กน้อย หรือข้อเสนอพิเศษ เพื่อกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสเป็นลูกค้าทำธุรกรรมให้เสร็จสิ้นจนกลายเป็นลูกค้า

ด้วยการปฏิบัติตามขั้นตอน Conversion Marketing ทั้ง 3 ขั้นตอนนี้อย่างรอบคอบ แบรนด์สามารถที่จะย้ายผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าผ่านช่องทาง Conversion การตลาดช่องทางต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การสร้างการรับรู้ของแบรนด์ไปจนถึงการเป็นลูกค้าที่พึงพอใจ

เคล็ดลับในการเพิ่ม Conversion ในการทำการตลาดออนไลน์

ในสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันสูงของการทำการตลาดออนไลน์ แน่นอนว่าการเพิ่ม Conversion คือสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จของธุรกิจ เนื่องจาก Conversion หมายถึงการกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งของผู้เข้าชม เช่น การซื้อ การสมัครรับจดหมายข่าว หรือการกรอกแบบฟอร์ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ Conversion Rate ซึ่งแบรนด์สามารถเลือกใช้กลยุทธ์ที่หลากหลาย รวมถึงการทำ Conversion Marketing เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้า และผลักดันให้กลุ่มเป้าหมายดำเนินการตามที่ต้องการ ซึ่งในส่วนนี้เราขอแนะนำเคล็ดลับในการเพิ่ม Conversion สำหรับการทำการตลาดออนไลน์เล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้กับแบรนด์ได้ง่าย ๆ 

เลือกภาพที่สวยงามและสะดุดตา

การเลือกรูปภาพคุณภาพสูง น่าดึงดูดใจ และมีความเกี่ยวข้องกับแบรนด์ หรือสิ่งที่ต้องการจะสื่อสามารถสร้างความประทับใจแรกที่ดีและดึงดูดผู้เข้าชมให้สำรวจแบรนด์เพิ่มเติมได้ 

ข้อความอ่านง่าย

เนื้อหาที่ชัดเจนและกระชับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการถ่ายทอดสิ่งที่แบรนด์ต้องการจะสื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรมีการใช้ภาษาง่าย ๆ และแบ่งข้อความออกเป็นย่อหน้าเย่อ ๆ หรือมีอีโมจิที่เป็นสัญลักษณ์แสดงหัวข้อย่อยเพื่อให้อ่านง่ายขึ้น 

 มี Live Chat

การมี Live Chat จะทำให้เราติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้ง่ายขึ้น ซึ่งการนำฟีเจอร์แชตแบบเรียลไทม์ หรือ Chatbot ไปใช้ในเว็บไซต์ หรือโซเชียลมีเดียเท่ากับว่าแบรนด์สามารถให้ความช่วยเหลือและตอบคำถามแก่ผู้เข้าชมได้ในทันที

 มีปุ่ม CTA (Call To Action)

คำกระตุ้นการตัดสินใจ (CTA) ที่ดึงดูดใจเป็นสิ่งสำคัญในการแนะนำผู้เข้าชมให้ดำเนินการสมัครสมาชิกหรือกดซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น ซึ่งการใช้ปุ่ม CTA ที่ดึงดูดความสนใจด้วยภาษาที่ชัดเจนและนำไปใช้ได้จริง สามารถช่วยเพิ่ม Conversion ได้ 

 ใช้กรอบเวลากระตุ้นยอดขาย

การสร้างความรู้สึกเร่งด่วนสามารถกระตุ้นให้ผู้เข้าชมที่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นลูกค้าตัดสินใจได้เร็วขึ้น ข้อเสนอแบบจำกัดเวลา ตัวนับเวลาถอยหลัง หรือข้อเสนอสุดพิเศษที่จะหมดอายุเร็ว ๆ นี้ สามารถกระตุ้นให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าดำเนินการก่อนที่จะพลาดโอกาสอันมีค่าไป

✔  ลองเปลี่ยนรูปแบบการทำโฆษณา

รูปแบบการโฆษณาที่หลากหลายสามารถดึงดูดกลุ่มผู้ชมเป้าหมายของคุณได้ ลองทดลองเปลี่ยนโฆษณาเป็นวิดีโอ หรือโฆษณาอื่น ๆ เพื่อวัดว่าโฆษณาแบบไหนได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า 

ทำแบบฟอร์มออนไลน์

การที่แบรนด์ลดความซับซ้อนของขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลลูกค้าและลีดโดยใช้แบบฟอร์มออนไลน์ที่ออกแบบมาอย่างดี อย่าง ตัวเลือกการกรอกแบบฟอร์มสั้น ๆ ขอรายละเอียดที่จำเป็น และตรวจสอบให้แน่ใจว่า Mobile-Friendly รวมถึงการเสนอสิ่งจูงใจ เช่น ส่วนลด หรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์แบบฟรี ๆ เมื่อส่งแบบฟอร์ม สามารถกระตุ้นให้ผู้เข้าชมกรอกแบบฟอร์มได้มากขึ้น

ด้วยการรวมเคล็ดลับเหล่านี้เข้ากับกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ รวมถึงการทำ Conversion Marketing รับรองว่าแบรนด์จะสามารถเพิ่มประสบการณ์ของผู้ใช้ สร้างความไว้วางใจ และกระตุ้นให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าเปลี่ยนใจมาเป็นลูกค้า ซึ่งท้ายที่สุดก็จะนำไปสู่ Conversion Rate ที่สูงขึ้นที่ส่งผลให้แบรนด์ประสบความสำเร็จได้มากขึ้นอย่างแน่นอน

สำหรับบทความนี้หลาย ๆ คนคงจะเห็นกันแล้วใช่ไหมว่าทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ Conversion ไม่ว่าจะเป็น Conversion คืออะไร? และ Conversion Rate คืออะไร? รวมถึง Conversion Marketing คืออะไร? แต่ละอย่างสำคัญกับการทำการตลาดออนไลน์อย่างไรบ้าง! ซึ่งบอกเลยว่า Conversion เป็นสิ่งที่คนทำธุรกิจอย่างเราต้องใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียดเลยทีเดียว ดังนั้นหากแบรนด์ไหนต้องการทำให้กลุ่มเป้าหมายเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าล่ะก็ ต้องห้ามพลาดสาระดีและเคล็ดลับดี ๆ ในบทความนี้!