อะไรคือ LINE VOOM?
หลายคนอาจจะเห็น Icon ที่มีรูปทรงเป็นสามเหลี่ยมอยู่ตรงกลางหน้าแชทในแอปไลน์ของเรา พอกดเข้าไปจะเจอแท็บ “For you” กับ “Following” ให้เลือก ด้านล่างลงมาก็เป็นวีดีโอต่างๆ หรือเป็นข่าวคราวอัปเดทที่เพื่อนๆ ในไลน์เราพิมพ์ไว้ พอถึงตรงนี้หลายคนคงงงแล้วว่า แล้วหน้า Timeline ปกติ หายไปไหน?
เราจะบอกว่าหน้า Timeline ของเราไม่ได้หายไปไหน แต่มันซ่อนอยู่ตรงแท็บ “Following” ของ Voom นี่แหละ
ส่วนอันใหม่ที่โผล่มาคือ “For You” ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่จะรวบรวมคอนเทนต์ต่างๆ หรือส่วนมากจะเป็นคลิปวีดีโอสั้นๆ ให้ธุรกิจ แบรนด์ หรือเหล่า Creator ที่มี LINE OA อยู่แล้วสามารถอัปโหลดคอนเทนต์ต่างๆ ลงไปได้ให้เหล่าผู้ใช้งาน LINE เห็นเรามากขึ้น สร้าง Awareness ให้กับแบรนด์ และตอบโจทย์กับการใช้งานของ Users ทั้งหลายในปัจจุบัน
ง่ายๆ ก็คือเจ้า Voom นี่แยกออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่เป็นหน้า “Following” ที่เป็นหน้า Timeline เราเดิม และส่วน “For You” ที่เป็นส่วนใหม่
คิดง่ายๆ ก็คือจากที่เป็นแอปแชท ทาง LINE ก็มูฟขยับไปแตะฝั่งที่เป็น Social Media Platform มากขึ้นนั่นเอง โดย LINE VOOM จะมีฟังก์ชั่นให้เราติดตามคนอื่นได้คล้ายๆ กับ TikTok หรือ Instagram
บางคนถึงตรงนี้แล้วก็งง แล้ว “เพิ่มเพื่อน” นี่ยังไง? ยังมีอยู่มั้ย? หรือแค่กดติดตามก็ถือว่าเป็นเพื่อนกันใน LINE แล้ว?
คำตอบก็คือถ้ามาหน้าแชทปกติ ฟังก์ชั่นเพิ่มเพื่อนก็ยังอยู่เหมือนเดิม แต่แค่พอมาหน้า VOOM ส่วนของ “For You” มันจะต้องเป็นการ Follow แทน
ทีนี้ Follow คนอื่นๆ ในหน้า VOOM แล้วยังไงต่อ?
จาก Pop-up ที่เด้งมาเวลาเรากด Follow ใครก็ตามใน VOOM ที่ว่า
“What following someone means
You can now see new posts made by anyone you follow on LINE VOOM!
To stop seeing someone’s updates, go to “Manage LINE VOOM updates” in LINE VOOM settings to unfollow them.
Please note that following someone doesn’t mean you can send or receive messages from them. To message someone, you must first add them as a friend.”
ง่ายๆ ก็คือกด Follow ใน VOOM ก็แค่ Follow เท่านั้น ไม่ได้ถือเป็นเพื่อนกัน ไม่ได้จะสามารถส่ง Message ไปหาได้ ถ้าอยากส่ง Message ไปหาได้ ยังไงก็ต้องแอดเป็นเพื่อนอยู่ดี (มันก็เหมือนกับการที่เรา Follow ใครก็ตามใน TikTok นั่นแหละ) ซึ่งถ้าวันนึงเกิดไม่อยากเห็นคอนเทนต์ของคนคนนั้นแล้วก็แค่กด Unfollow เท่านั้นเอง
แล้วถ้าอยากโพสต์ Video สั้นหรืออัปโหลดคอนเทนต์ผ่านหน้า “For You” ของ VOOM บ้างล่ะ? ต้องทำยังไง?
คำตอบคือ ต้องมี LINE OA ของตัวเอง หรือของร้าน ของแบรนด์
วิธีเชื่อม LINE OA กับ LINE VOOM ก็คือ
ถ้ากลับมาที่หน้า VOOM ดูมุมขวา จะเห็นรูป Profile ของเราเล็กๆ กลมๆ ด้านบนนั้น
คลิกปุ๊บ กด Create Official Account จะสร้างใหม่เลย หรือถ้ามีอยู่แล้วก็แค่ลิงก์ไปหา LINE OA ที่มีอยู่ (ถ้าใครมีหลาย OA ก็สามารถเพิ่มได้ลงไปได้)
พอจะโพสต์ก็กดที่ Logo ของ LINE OA ของเราที่ต้องการ มันก็จะโผล่มาเป็นหน้าให้สร้างโพสต์แรก …แล้วก็เริ่มสร้างได้เลย
เราอัปโหลดคอนเทนต์แบบไหนไปใน VOOM ได้บ้าง?
- Photo รูปนิ่งธรรมดา
- Video วีดีโอ
- Sticker สติกเกอร์ใน LINE OA ของเรา
- Map แผนที่
- Coupon คูปอง (ดึงมาจาก LINE OA ของเรา)
- Survey แบบสอบถาม (ดึงมาจาก LINE OA ของเราเหมือนกัน)
จากนั้นก็สามารถใส่ Caption คำเขียนประกอบ, ใส่ #Hashtag, หรือจะใส่ Location ไว้ก็ได้
แล้วก็เลือกได้ว่าจะให้โพสต์ที่สร้างนี้เป็นแค่ Draft สร้างไว้เฉยๆ ยังไม่ลง หรือจะ Schedule ตั้งเวลาไว้ลงตอนไหนก็ได้
ในส่วนการอัปคอนเทนต์ลงไปนี่ ทาง ADME ว่ามันคล้ายๆ กับการโพสต์รูปลงไปในไอจีนั่นแหละ
โน๊ตไว้นิดนึง ถ้าเราเข้า LOGIN ไปจัดการหน้า LINE VOOM ผ่านทาง Desktop (linevoom.line.me)
สิ่งที่ทำได้จะเป็นแค่การเข้าไปจัดการหน้า “Following” หรือก็คือหน้า “LINE Timeline” เดิม
แล้ว VOOM มีข้อดีอะไรสำหรับแบรนด์ หรือธุรกิจมั้ย?
แน่นอนว่ามี เพราะมันก็จะเป็น 1 ใน Placement ที่สามารถโชว์โฆษณาเวลาที่ทางแบรนด์ หรือธูรกิจสร้างโฆษณาผ่านช่องทาง LINE Ads Platform (LINE LAP) นั่นเอง
ทีนี้ก็เหมือนครบลูป จบได้ที่ LINE ในแอปเดียว
LINE VOOM – เหมือนเป็นหน้าต่างร้านค้า หรือแบรนด์ที่มี LINE OA อยู่แล้ว ให้คนเข้ามาเห็นธุรกิจเรามากขึ้น ผ่านการทำคอนเทนต์ต่างๆ พอคนสนใจปุ๊บ ก็พาไปคุยต่อได้ใน CHAT – คุยไป คุยมา แล้วก็อาจจะไปจบการขายใน LINE SHOPPING ก็เป็นได้
สรุปกันอีกที
“For You” – อันนี้จะเป็นหน้าใหม่ ที่จะมีวีดีโอ หรือคอนเทนต์ต่างๆ ที่ทาง Creator หรือพวกแบรนด์ต่างๆ ที่เป็นเจ้าของ LINE OA เป็นคนโพสต์ คล้ายกับพวก Instagram Reel หรือ TikTok ซึ่งก็จะมีโฆษณาแทรกอยู่ด้วย
“Following” – อันนี้เป็นหน้าที่เคยเป็น LINE Timeline ของเรา ก็จะมีคอนเทนต์ของเพื่อนๆ เราใน LINE ที่อัปเดทสเตตัส เปลี่ยนรูป Profile หรือเป็นพวก LINE OA ที่เค้าลงคอนเทนต์บนหน้า Timeline ปกติ