Skip to content

ADME

6 ข้อดี Facebook Audience Insight

Audience Insights ของ Facebook เครื่องมือที่มีประโยชน์ในด้านการตลาดออนไลน์ที่ทุกคนควรรู้

การทำการตลาดดิจิทัลนั้นมีประโยชน์และข้อดีต่างๆ เมื่อถูกเปรียบเทียบการทำการตลาดในสมัยก่อน เพราะด้วยความที่ทุกอย่างนั้นสามารถบันทึกเป็นไฟล์ดิจิทัล ทำให้การเข้าถึงข้อมูลหรือสถิติต่างๆ นั้นเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าสมัยก่อน ๆ เราสามารถเปรียบเทียบ วิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างง่ายดายเพียงแค่คลิก จึงง่ายและสะดวกที่เราสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้


แต่การที่จะได้ข้อมูลที่เราต้องการนั้น เราต้องเข้าใจถึงฟีเจอร์การใช้งาน รวมถึงหลักวัตถุประสงค์ต่างๆ ของโปรแกรมหรือฟีเจอร์นั้น ๆ ในการนำมาใช้เพื่อประยุกต์ให้เข้ากับการทำการตลาดออนไลน์ของเราหรือเพื่อการวางแผนต่างๆ จนไปสู่ขั้นตอนเพื่อพัฒนาร้านค้าหรือสินค้าต่อไป นอกจากการที่เราได้รู้ถึงประสิทธิภาพของ เทคโนโลยีหรือแอปพลิเคชันเพื่อการทำการตลาดแล้ว การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าก็ยังคงเป็นหลักการทำการตลาดที่สำคัญอยู่เสมอ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบถ้าหาจะมีฟีเจอร์ที่ช่วยเรารู้ว่าคนกลุ่มไหนคือลูกค้าของเราและเข้าใจถึงพฤติกรรมของลูกค้าได้ เพราะเราสามารถนำข้อมูลนี้ไปประกอบการพิจารณาเพื่อการลงทุนหรือการทำการตลาดออนไลน์ได้เป็นอย่างดี

ถ้าหากพูดถึงเรื่องการทำการตลาดออนไลน์ เราก็คงต้องนึกถึงลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายของเราเป็นอันดับต้น ๆ Audience Insight คือ การทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายในเชิงลึก เพื่อนำข้อมูลมาใช้สำหรับการสื่อสารทางการตลาดให้เข้าถึงลูกค้าได้ตรงเป้ายิ่งขึ้น อาจพูดได้ว่า Audience Insight คือสิ่งสำคัญหนึ่งสิ่งในการทำตลาดออนไลน์ แต่มันสามารถเอาข้อมูลไปใช้อะไรได้บ้างและใช้ยังไง เราลองศึกษากันเลยกันเลย

โดยหลักแล้วการทำ Audience Insight คือ การรวบรวมรายละเอียดต่างๆ ที่ได้จากกลุ่ม Audience และสามารถทำได้หลายวิธีการ เช่น การรวบรวม Persona หรือข้อมูลต่างๆ จากการ แจกแบบสอบถาม โทรถาม สังเกตการณ์หรือแม้แต่จะเป็นช่องทางออนไลน์ เช่น Audience Insights ของ Facebook  Google form  Hotjar หรือแม้แต่ตามเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันต่างๆ นอกจากนี้เรายังหา Audience Insight ได้จากเครื่องมือดูเทรนด์บนโซเชียลมีเดียแบบต่างๆ ได้อีกด้วย

Audience Insight บน Facebookและการนำมาใช้

ซึ่งถ้าหากเราได้ข้อมูลเชิงลึกต่างๆ มาแล้วเราสามารถนำไปต่อยอดในการทำธุรกิจของเราได้ เช่น แต่ถ้าหากเราทำธุรกิจหรือการตลาดออนไลน์บน Platform ดัง ๆ อย่างเช่น Facebook เราก็คงต้องคุ้นเคยกับตัว Audience Insight Tool  ซึ่งจะช่วยเราในการเก็บข้อมูลเชิงหรือสถิติในด้านต่างๆ ของกลุ่มลูกค้าของเราโดย จะพูดถึงสิ่งต่างๆ ที่สำคัญเพื่อใช้ในการทำการตลาดออนไลน์ เช่น รับรู้ถึงเพศอายุของผู้ใช้งาน พฤติกรรมการใช้เฟสบุ๊ค หรือแม้แต่สถานะต่างๆ โดยเราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ ไปใช้ในการปรับเนื้อหาคอนเทนต์รวมไปถึงการวางแผนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ต่างๆ ที่จะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้แม่นยำและตรงประเด็นมากยิ่งขึ้น

หลาย ๆ คนคงจะรู้จัก Audience Insights ของ Facebook  เครื่องมือที่ช่วยเราเข้าใจและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหรือ Target ของเราสำหรับการทำการตลาดออนไลน์ ฟีเจอร์นี้ยังรวมไปถึงเครื่องมือ  Audience Insight Tool  เป็นเครื่องมือสำคัญในการทำเพจ Facebook ที่ช่วยให้เหล่าแอดมินได้ศึกษาและได้รับข้อมูลหรือสถิติต่างๆ จากกลุ่มลูกค้าของตนเองเพื่อใช้ในการทำการตลาดออนไลน์และพัฒนาร้านค้าให้ดียิ่งขึ้น เรียกได้ว่า Facebook Audience Insights คือ หัวใจสำคัญที่ให้เราได้รู้จักกลุ่มเป้าหมายหรือ Audience Insight  กลุ่มคนที่จะซื้อสินค้าของเราได้อย่างลึกซึ้ง เครื่องมือ Audience Insights ของ Facebook จะมีความสำคัญต่างและข้อดีต่างๆ อย่างไรบ้างและจะช่วยพัฒนาการตลาดออนไลน์และธุรกิจของเราได้มากน้อยแค่ไหนเราไปทำความรู้จักพร้อม ๆ กันเลย

ข้อดีของ Audience Insight Tool ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มลูกค้าและผู้ประกอบการ

Audience Insights ของ Facebook เป็นเครื่องมือที่ดีถ้าหากคุณใช้อย่างถูกต้อง มันจะช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าได้โดยตรงมากยิ่งขึ้น เป็นหนึ่งในช่องทางที่ช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์กับเหล่า Audience เพราะถ้าหากเราได้รับข้อมูลที่ดีนั้นเราก็จะสามารถสร้างคอนเทนต์ที่มีตรงใจลูกค้าและจะช่วยสร้างกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น

 

1. รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายที่เราสนใจตามเพจอะไรอยู่บ้าง

การใช้เครื่องมือ Audience Insight Tool ทำได้โดยการที่เราเลือกพื้นที่ อายุ และเพศ ของกลุ่มเป้าหมาย และ Interest หรือความชอบที่เราคิดว่า Target Group ที่เราตั้งไว้จะชอบ จากนั้นเราก็จะได้ Insight ออกมาว่าคนในกลุ่มที่เราเลือก เค้าติดตามเพจอะไรอยู่บ้าง? 

พอเราทราบถึงเพจที่กลุ่ม Audience ติดตามอยู่ก็จะสามารถนำข้อมูลหรือสถิติที่สำคัญดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ในการทำแผนการตลาด หรืออาจจะพัฒนาสินค้าได้ต่อในอนาคตถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงจุดสำคัญของการทำตลาดและช่วยให้เห็นภาพรวมของลูกค้ามากยิ่งขึ้น

ตัวอย่างการตลาดออนไลน์โดยใช้ Audience Insight Tool เช่น เราเลือกกลุ่มคนที่ชอบ Digital Marketing อายุ 20 – 30 ที่อยู่ในกรุงเทพฯ มา จาก Audience Insights ทำให้ทราบว่า เค้าชอบเพจ @ZAAP (อาจจะเป็นคนทำงานสายดิจิทัล แต่เป็นขาช้อปแฟชั่นพร้อมก็ได้) และชอบเพจ @JobsDB Thailand (ตื่นตัวหางานใหม่ ๆ อยู่เสมอ) และยังชอบตามเพจรีวิวหนังอย่าง @หนังโปรของข้าพเจ้า , @หนังฝังมุก หรือ @Netflix รีวิว อีกด้วย (อาจจะแปลได้ว่าคนกลุ่มนี้ชอบดูหนัง นอกเหนือจากการชอบ Digital Marketing ว่างๆ อาจจะชอบดู Netflix ก็เป็นได้)

เมื่อได้ Insights พวกนี้มา เราก็สามารถมาวางแผนทำคอนเทนต์ให้มีแนวโน้มจะเป็นสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายสนใจได้ จากเมื่อก่อนอาจจะทำคอนเทนต์เกี่ยวกับ Digital Marketing ซึ่งยิงไปเลยตรง ๆ หากลุ่มที่ชอบ Digital Marketing 

 

2. ได้ไอเดียใหม่ ๆ ในการทำคอนเทนต์

เราสามารถนำความสนใจหรือความชอบของกลุ่มเป้าหมายมาเป็นไอเดียเพื่อ Twist และประยุกต์ตัวคอนเทนต์ให้น่าสนใจมากขึ้นและเข้าถึงมากยิ่งขึ้น เช่นอาจจะคิดคอนเทนต์เจาะกลุ่มคนดูหนังที่เกี่ยวกับ Marketing เราอาจจะเพิ่มการใช้ศัพท์หนัง เช่น Mood and Tone การเล่าเรื่องในคอนเทนต์ให้เหมือนกับหนังหรือภาพยนตร์เพื่อดึงดูดลูกค้าเพราะรู้ว่ากลุ่มคนที่สนใจ Digital Marketing ชอบดูหนัง

นอกจากการเข้าถึงว่ากลุ่ม Audience นั้นติดตามเพจอะไรบ้างยังสามารถบ่งบอกได้ถึงความชอบส่วนตัว และสิ่งที่พวกเค้าสนใจเป็นหลักได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารและเครื่องดื่ม เทคโนโลยี  ช้อปปิ้ง กีฬา  หรือธุรกิจต่างๆ ที่เป็นตัวกรองโดยตรงจากทาง Facebook ซึ่งให้เราช่วยกรองกลุ่ม Audience ได้มากยิ่งขึ้น

 

3. รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายมี Relationship Status ยังไง

เครื่องมือสามารถเข้าถึงสถานะความสัมพันธ์ของกลุ่ม Audience ว่าโสดมั้ย? หรือมีครอบครัวแล้ว? อันนี้ก็รู้ได้ว่ามีคนกลุ่มไหนอยู่กี่ % บ้าง ซึ่งพอเรารู้แบบนี้ เราก็ไปปรับทางคอนเทนต์เราได้เช่นกัน อย่างเช่นว่า สมมติเรากำลังทำบริษัทรถยนต์มือสอง ทีนี้ Outcome ที่ได้ในส่วน Relationship จะทำให้เรารู้ได้ว่าคนที่ชอบ Toyoya ส่วนมากเป็นคนโสด แต่คนที่หาซื้อรถตู้เป็นพวกคนที่มีครอบครัวแล้วมากกว่า พอเรารู้แบบนี้ จะทำให้เราเลือกวางแผนได้ถูกต้องมากขึ้น

 

4. รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายมีระดับการศึกษายังไงบ้าง

Audience Insights ของ Facebook ยังแสดงสถิติเกี่ยวกับระดับการศึกษาของกลุ่มเป้าหมายได้โดยจะแสดงกราฟบอกเลยว่ากลุ่มคนที่เราเลือกเค้าเรียนจบ หรือกำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยม หรือว่าเรียนจบมหาวิทยาลัยปริญญาตรีแล้ว หรือมากกว่านั้น อันนี้ยกตัวอย่างเช่น เราขายเครื่องสำอาง แบรนด์ที่คล้าย ๆ กันแต่ใหญ่หน่อยอาจจะเป็น Etude โดยตอนแรกเราอาจจะคิดว่าของเราเหมาะกับการขายเด็กมัธยม แต่กราฟจาก Audience Insights กลับบอกว่าคนที่สนใจเพจ Etude แท้จริงแล้วเป็นเด็กมหาวิทยาลัยต่างหาก! เราจะได้ปรับแผนคอนเทนต์ หรือโปรโมชันทัน 🙂

 

5. รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายทำอาชีพประมาณไหน

พอดู Insight นอกจากจะรู้ว่าเค้าชอบเพจอะไร เรายังรู้ด้วยว่ากลุ่มลูกค้าของเรานั้นทำงานสายอาชีพไหน เราก็จะสามารถเลือกคอนเทนต์ หรือเลือกใช้คำในโฆษณาได้ถูกจริตของกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น เช่น ถ้าหากกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของเรานั้นเป็นคุณแม่ Full time ที่เลี้ยงลูกตลอดเวลา เราก็จะได้ใช้คำหรือคอนเทนต์ที่ตรงและเข้าถึงคุณแม่ ๆ ทั้งหลายที่อ่านหรือเสพคอนเทนต์อยู่ได้มากยิ่งขึ้น โดยนี้อาจช่วยดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นถ้าหากเราใช้คำและคอนเทนต์ได้ถูกต้องและเหมาะกับวัยและอาชีพของกลุ่มเป้าหมาย



6. รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายอยู่เขตไหนเยอะ

Audience Insight Tool ยังบ่งบอกไปถึงเขตที่ผู้ใช้หรือกลุ่มลูกค้าอยู่ว่าส่วนใหญ่เป็นคนเขตไหน ถ้าสมมติเราเลือกอยากดู Insights ของคนที่อยู่ประเทศไทย ที่สนใจด้านใดด้านหนึ่ง เราก็จะรู้ลึกลงไปได้อีกว่า แล้วในประเทศไทยนี้ เค้าอยู่จังหวัดไหนเยอะ เพื่อได้ทำแผนการตลาดถูกตำแหน่งมากยิ่งขึ้น ถ้าหากเราได้กลุ่มลูกค้าที่ชัดเจนมากขึ้นเราอาจวางแผนทำการตลาดในอนาคตที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่นั้น ๆ รวมไปถึง  การทำคอนเทนต์ให้เข้าไปในแต่ละพื้นที่และเจาะประเด็นมากยิ่งขึ้น

 

7. รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายมีพฤติกรรมบน Facebook ยังไงบ้าง

พฤติกรรมการใช้ Facebook นั้นครอบคลุมไหนหลาย ๆ เรื่อง เช่น ช่วงเวลาในการใช้เฟสบุ๊คส่วนใหญ่ เพจที่กดถูกใจ ส่วนใหญ่คอมเมนต์ในเพจอะไร? หรือชอบคอมเมนต์ ชอบกดไลก์โพสต์ หรือชอบกดแชร์โพสต์แบบไหน? นอกจากนี้ยังบอกได้ถึงพฤติกรรมการใช้จ่าย หรือซื้อสินค้าต่างๆ ของกลุ่ม Audience ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการเตรียมตัววาง KPI สำหรับการทำคอนเทนต์ได้ถูกในแง่และลงโฆษณาให้ถูกช่วงในแต่ละช่วงเวลาต่างๆ ที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้เฟสบุ๊คของกลุ่ม Audience


หลังจากเราได้ทราบแล้วว่า Audience Insight Tool  มีข้อดียังไงบ้างและทำให้เราเข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างการเข้าถึงลูกค้าและการทำตลาดออนไลน์ หากเราใช้เครื่องมือ  Audience Insights ของ Facebook  จะทำให้เราทราบข้อมูลที่สำคัญต่างๆ ของกลุ่ม Audience ในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งเราสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ และยังมีผลต่อการทำคอนเทนต์ การยิง Ads โฆษณาและพัฒนาด้านการทำ Digital Marketing ของเราเพื่อให้ถูกกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เราได้เข้าใจเรื่องการทำการตลาดออนไลน์ในอนาคตและขยายธุรกิจของเราอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

วิธีทำการตลาดออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยการใช้ Audience Insight Tool ซึ่ง Facebook Audience Insights คือเครื่องมือที่จะช่วยให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกต่างๆ ของกลุ่มลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมายในแง่ต่างๆ ได้ เช่น เพศ ความสนใจ ที่อยู่ พฤติกรรมการใช้เฟสบุ๊ค รวมไปถึงสถานะต่างๆ และอย่างที่เราทราบกันดีว่า Facebook Audience Insight นั้นมีผลต่อการสร้างคอนเทนต์และยิงโฆษณาของธุรกิจเราได้ในอนาคต ซึ่งหลังจากที่เราสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้แล้ว เราจะนำข้อมูลไปพิจารณาอย่างไรและข้อมูลนั้นมีความสำคัญต่อการทำการตลาดออนไลน์และ Audience Insights ของ Facebook อย่างไรบ้าง

 

Facebook เป็น Platform ที่ดัง

เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่า Facebook นั้นเป็นช่องทางในการทำการตลาดที่สำคัญและมีค่ามากสำหรับธุรกิจเพราะมีจำนวนผู้ใช้งานเยอะและมีสถิติการใช้งานเกิดขึ้นในทุก ๆ วันเป็นเวลากว่าหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่านักการตลาดส่วนใหญ่ก็อยากที่จะเลือกที่ทำ Campaigns หรือทำการโฆษณาบน Platform ที่มีผู้ใช้เยอะ ๆ อย่าง Facebook เพื่อให้เกิดการสื่อสารที่เป็นวงกว้างและมีประสิทธิภาพ ดังนั้น Audience Insights ของ Facebook จึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการวางกลยุทธ์การตลาดออนไลน์เป็นอย่างมาก

 

ลดต้นทุนในการลงโฆษณา   

การทำการตลาดบนโซเชียลในปัจจุบันมีการเน้นไปในการทำการตลาดแบบ Cost-per-click เพื่อให้ได้ผลกำไรกลับคืนมา ทำให้การใช้ Audience Insights ของ Facebook ในการทำการตลาดออนไลน์จากการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกกลายเป็นองค์ประกอบที่สำคัญและช่วยในการลดต้นทุนของการโฆษณาลงได้ เพราะเราสามารถใช้จ่ายเงินไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ตรงมากกว่า และยังช่วยในเรื่องของความคุ้มค่าในการลงทุนต่างๆ อีกด้วย

 

ความแม่นยำของข้อมูล

ความแม่นยำของของข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญมากในการตัดสินใจทำ Campaign หรือลงโฆษณาต่างๆ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่สุด ถ้าหากเราได้รับข้อมูลที่แม่นยำ ครอบคลุมและหลากหลายมากพอ เช่น พฤติกรรมการใช้เฟสบุ๊ค อายุของผู้ใช้งาน ที่อยู่ หรือแม้แต่สถานะ ข้อมูลเชิงลึกที่แม่นยำเหล่านี้ก็จะช่วยให้เราสามารถออกแบบการทำการตลาดออนไลน์ของเราได้อย่างสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจนั้นเติบโตได้ไว ถ้าหากเราใช้ข้อมูลนั้นอย่างชาญฉลาด

 

ช่วยให้ส่งข้อความที่มีความหมายไปยังลูกค้าของเราได้โดยตรง

การได้ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าของเรามานั้นถือว่าเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่งในการทำธุรกิจ การสื่อสารที่จะเกิดขึ้นนั้นก็จะมีความหมายมากยิ่งขึ้นเพราะข้อมูลเชิงลึกจาก Audience Insights ของ Facebook นั้นไม่ได้เพียงเป็นแค่การรวบรวมสถิติแต่ยังเป็นการรวบรวมข้อมูลของสิ่งที่มีความสำคัญต่อตัวลูกค้าซึ่งค่อนข้างมีความหมายมาก เพราะฉะนั้นถ้าหากเราได้รับรู้ข้อมูลดังกล่าวมาแล้ว ประเด็นต่อไปคือการทำคอนเทนต์หรือการยิงโฆษณาให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของเราได้ รวมไปถึงการส่งข้อความที่โดนใจลูกค้าแบบ Personalized มีความเจาะจงเฉพาะกลุ่มมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจและความหมายต่างๆ ที่ต้องการจะสื่อ ระหว่างผู้ประกอบการไปยังลูกค้าได้ผ่านคอนเทนต์และการเล่าเรื่องราวต่างๆ ได้อีกด้วย

 

ช่วยพัฒนาเพจและ Brand ของเรา

ผลจากการทำคอนเทนต์ที่ดีและตรงใจกลุ่มเป้าหมายนั้นอาจช่วยให้เราได้รับการยอมรับและได้เป็นรู้จักในด้านต่างๆ รวมถึงเป็นการช่วยเสริมภาพลักษณ์ของบริษัทที่มีต่อลูกค้าผ่านการใช้ Audience Insights ของ Facebook เพราะการที่เราได้ทำคอนเทนต์ที่ดีมีผลต่อการซื้อขาย และภาพลักษณ์ของแบรนด์รวมถึงการที่ได้มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้าได้โดยตรงอีดด้วย



จากที่เราได้ทราบถึงว่า Facebook Audience Insights คืออะไรและมีความสำคัญอย่างไรต่อการทำการตลาดออนไลน์ Audience Insight คืออะไรและใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง รวมไปถึงการใช้เครื่องมือ Audience Insight Tool ที่จะเป็นตัวช่วยให้เราทราบถึงข้อมูลเชิงลึกต่างๆ ของกลุ่มเป้าหมาย และสุดท้ายคือเรื่องของข้อดีของการทำ  Audience Insights ของ Facebook เพื่อให้เราเข้าใจในโลกของการทำการตลาดดิจิทัลและการทำการตลาดออนไลน์รวมถึงความเข้าใจความเชื่อมโยงของลูกค้ากับตัวเราที่มีความสำคัญและส่งผลอย่างมากต่อ ก้าวต่อไป ในการทำการตลาดของเราด้วย ทั้งนี้เราอยากให้เพื่อน ๆ ได้มาลองใช้เครื่องมือ Audience Insights ของ Facebook ก่อนที่จะถูกปิดไปโดยทาง Facebook เพื่อเก็บข้อมูลเพื่อไปใช้ทำการตลาดในอนาคต