Looker Studio คือเครื่องมือเด็ดที่เปลี่ยนตัวเลขให้เป็นข้อมูล
Looker Studio คือหนึ่งในเครื่องมือที่หลาย ๆ ธุรกิจ รวมถึงนักการตลาดกำลังให้ความสนใจอย่างมากตอนนี้ เพราะยุคดิจิทัลที่ข้อมูลถูกสร้างอยู่ตลอดเวลา ทั้งยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ ตัวเลขจากโฆษณา ไปจนถึงพฤติกรรมผู้บริโภค ข้อมูลเหล่านี้มีค่ามหาศาล แต่หากไม่รู้วิธีการจัดการ ก็อาจกลายเป็นเพียงตัวเลขที่ชวนสับสนได้ ตรงนี้เองที่ Google Looker Studio เข้ามามีบทบาท ทำให้การจัดการข้อมูลเป็นเรื่องง่ายขึ้น บทความนี้ ADME Media จึงจะชวนไปทำความรู้จักว่า Looker Studio คืออะไร Looker Studio วิธีใช้ทำยังไง พร้อมตัวอย่าง Looker Studio ที่จะบอกคุณว่าทำไมเครื่องมือนี้จึงเป็นเครื่องมือที่นักการตลาดออนไลน์ไม่ควรพลาด
ทำความรู้จัก Looker Studio คืออะไร? ทำไมธุรกิจออนไลน์ต้องใช้?
หลายคนอาจยังจำเครื่องมือที่เคยเรียกว่า Google Data Studio กันได้ แต่ปัจจุบันเครื่องมือนี้ได้ถูกพัฒนาและเปลี่ยนชื่อเป็น Google Looker Studio หลังจาก Google ซื้อบริษัท Looker ในปี 2020 และทำการปรับปรุงเครื่องมือนี้จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของ Google Cloud การเปลี่ยนชื่อครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของแบรนด์ แต่ยังรวมถึงการเพิ่มความสามารถให้ผู้ใช้งานสร้างรายงานและแดชบอร์ดได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
Looker Studio คือเครื่องมือบนเว็บที่ใช้งานง่าย คล้ายกับ Power BI ของ Microsoft สามารถเปลี่ยนข้อมูลดิบจากหลายแหล่ง เช่น Google Analytics, Google Ads, Google Sheets, Google Search Console หรือฐานข้อมูลอื่น ๆ ให้กลายเป็นรายงานเชิงภาพที่เข้าใจง่ายและสวยงาม ผู้ใช้งานสามารถลากและวาง (Drag-and-Drop) เพื่อสร้าง Dashboard แบบ Interactive ได้ทันที นอกจากนี้ Google Looker Studio ยังมีทั้งเวอร์ชันฟรีและแบบเสียค่าใช้จ่าย พร้อมฟีเจอร์ที่พัฒนาต่อเนื่อง ทำให้ Looker Studio คือเครื่องมือที่สะดวกอย่างมากสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลและแชร์ผลลัพธ์กับทีมงานในองค์กร ตลอดถึงผู้บริหาร
ฟีเจอร์ Looker Studio มีอะไรบ้าง ดีต่อนักการตลาดออนไลน์ยังไง
เวลาที่ต้องจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาล บางครั้งการดูตัวเลขเพียงอย่างเดียวก็ทำให้สับสนและตัดสินใจผิดพลาดได้ Google Looker Studio จึงเข้ามาเป็นตัวช่วยสำคัญที่เปลี่ยนข้อมูลซับซ้อนให้มองเห็นภาพรวมได้ง่ายขึ้น พร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยให้การวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลทำได้เร็ว มีประสิทธิภาพ ลองมาดูกันว่า 5 ฟีเจอร์เด็ดของ Google Looker Studio ที่ ADME รวบรวมมาฝากจะช่วยให้การทำงานกับข้อมูลของคุณง่ายขึ้นอย่างไรบ้าง
1. สร้างรายงาน (Reports) และแดชบอร์ด (Dashboards)
หนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ Looker Studio คือความสามารถในการสร้างรายงานและสร้างแดชบอร์ดแบบอินเทอร์แอคทีฟ ผู้ใช้งานสามารถลากวางกราฟ แผนภูมิ ตาราง หรือแผนที่ พร้อมใส่ข้อความ รูปภาพ ลิงก์ หรือวิดีโอ ทำให้รายงานไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่กลายเป็นเรื่องราวข้อมูลที่เข้าใจง่ายและน่าสนใจ
2. เชื่อมต่อข้อมูลจากหลายแหล่ง
Google Looker Studio มีฟีเจอร์รองรับการดึงข้อมูลจากหลากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็น Google Analytics, Google Ads, Google Sheets, Search Console หรือฐานข้อมูลอื่น ๆ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถรวมข้อมูลจากหลายแพลตฟอร์มในรายงานเดียวได้อย่างสะดวกและครบถ้วน
3. ปรับแต่งสไตล์และ Layout ตามความต้องการ
ผู้ใช้งานสามารถปรับธีมสี ขนาดกราฟ และจัดวาง Layout ให้สอดคล้องกับแบรนด์หรือสไตล์งาน ทำให้รายงานดูสวยงาม อ่านง่าย และช่วยสื่อสารข้อมูลได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องเสียเวลาออกแบบเอง
4. อัปเดตข้อมูลอัตโนมัติและดูย้อนหลังได้
Dashboard ของ Google Looker Studio สามารถตั้งค่าอัปเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์ ทำให้ข้อมูลมีความสดใหม่อยู่เสมอ และยังสามารถย้อนดูข้อมูลย้อนหลังในช่วงวันที่ต้องการ ช่วยวิเคราะห์เทรนด์และพฤติกรรมต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ
5. แชร์และทำงานร่วมกับทีมง่าย
Looker Studio คือเครื่องมือที่ออกแบบให้แชร์รายงานหรือแดชบอร์ดได้ง่าย ผู้ใช้งานสามารถกำหนดสิทธิ์ แชร์ลิงก์ ฝังรายงานบนเว็บไซต์ หรือทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ ทำให้ทีมทุกคนเข้าถึงข้อมูลและตัดสินใจบนพื้นฐานเดียวกันได้ทันที
วิธีเริ่มใช้งาน Looker Studio คืออะไร แชร์คู่มือสำหรับมือใหม่
สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นใช้งาน Google Looker Studio แต่ไม่แน่ใจว่า Looker Studio วิธีใช้ทำอย่างไร ควรจะเริ่มจากตรงไหนดี ไม่ต้องกังวล เพราะ Looker Studio คือเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย แม้คุณจะไม่มีพื้นฐานด้านเทคนิคก็สามารถสร้าง Dashboard และรายงานได้ เพียงทำตาม 6 ขั้นตอนต่อไปนี้ที่ ADME บริษัทการตลาดออนไลน์ได้รวบรวมนำมาฝาก คุณก็จะพร้อมเริ่มวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลได้ทันที
1. สร้างบัญชี Google Cloud Platform
สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือการมีบัญชี Google Cloud Platform เพราะบัญชีนี้จะเป็นกุญแจให้เข้าถึงทุกฟีเจอร์ของ Google Looker Studio ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับเครื่องมือต่าง ๆ ของ Google ได้
2. เปิดใช้งาน Looker Studio
หลังจากมีบัญชีแล้ว ให้เข้าสู่ Google Looker Studio ผ่านเว็บไซต์ datastudio.google.com แล้วกด “Use it for free” จากนั้นล็อกอินด้วย Google Account ของคุณ
3. เชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลที่ต้องการ
เลือกข้อมูลที่คุณต้องการนำมาวิเคราะห์ ไม่ว่าจะเป็น Google Analytics, Google Ads, Search Console หรือฐานข้อมูลอื่น ๆ การเชื่อมต่อข้อมูลจะช่วยให้คุณสร้างรายงานที่ครบถ้วนและตอบโจทย์งานของคุณมากที่สุด
4. เริ่มสร้าง Dashboard
หลังจากเชื่อมต่อข้อมูลเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถเริ่มสร้าง Blank Report ได้ทันที ไม่ว่าจะออกแบบตามความต้องการเอง หรือใช้ Templates ตัวอย่างจาก Google และ Community เป็นไอเดียช่วยให้เริ่มต้นง่ายขึ้น จากนั้นเพียงลากวางกราฟ ตาราง แผนภูมิ รวมถึงใส่ข้อความ รูปภาพ หรือลิงก์ ก็จะได้ Dashboard ที่ชัดเจน สวยงาม พร้อมสำหรับการใช้งาน
5. จัดการสิทธิ์ (Access) และแชร์รายงาน
Google Looker Studio ช่วยให้คุณแชร์รายงานหรือแดชบอร์ดกับทีมงานได้แบบเรียลไทม์ โดยสามารถกำหนดสิทธิ์ให้สมาชิกเข้าดูหรือแก้ไขรายงานตามความเหมาะสม นอกจากนี้ยังสามารถฝังรายงานบนเว็บไซต์ หรือส่งลิงก์ให้เข้าถึงข้อมูลได้ทันที ทำให้การทำงานร่วมกันรวดเร็วและสะดวกมากขึ้น
6. ตรวจสอบความถูกต้องและตั้งค่าอัปเดตข้อมูล
ก่อนเริ่มใช้งาน ควรตรวจสอบว่าข้อมูลใน Dashboard ถูกต้องครบถ้วน จากนั้นตั้งค่าให้ระบบอัปเดตอัตโนมัติ เพื่อให้ข้อมูลใหม่อยู่เสมอ และหากต้องการวิเคราะห์แนวโน้มหรือสรุปผลย้อนหลัง ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลในช่วงเวลาที่ต้องการได้อย่างสะดวก
ตัวอย่าง Looker Studio ที่ช่วยนักการตลาดและ Online Marketing ทำงานง่ายขึ้น
แน่นอนว่าในยุคดิจิทัล หนึ่งในผู้ที่ต้องทำงานกับข้อมูลมากที่สุดคงหนีไม่พ้นนักธุรกิจออนไลน์ นักการตลาดดิจิทัล รวมถึงผู้ให้บริการรับทำ Online Marketing ที่ต้องจัดการกับข้อมูลจำนวนมหาศาลในแต่ละวัน การนำ Google Looker Studio เข้ามาใช้งานจึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญ เพราะสามารถแปลงตัวเลขที่ซับซ้อนให้กลายเป็นข้อมูลเชิงภาพที่เข้าใจง่าย มองเห็นภาพรวมของธุรกิจได้อย่างชัดเจน และช่วยให้การตัดสินใจแม่นยำยิ่งขึ้น โดยตัวอย่าง Looker Studio ด้านการใช้งานที่นักการตลาด รวมถึง ADME เองก็นำมาประยุกต์ใช้ ได้แก่
- รายงานการตลาด (Marketing Report) : สรุปข้อมูลจากหลากหลายแพลตฟอร์ม เช่น Google Ads หรือ Facebook Ads เพื่อติดตามผลแคมเปญในที่เดียว
- รายงาน SEO (SEO Report) : ดึงข้อมูลจาก Google Search Console และ Google Analytics มาวิเคราะห์ เช่น คีย์เวิร์ดที่ทำอันดับดี เพื่อช่วยทีม SEO ปรับกลยุทธ์
ให้ตรงเป้าและเห็นผลเร็วขึ้น - รายงานทราฟฟิกเว็บไซต์ (Website Traffic Report) : แสดงจำนวนผู้เข้าชม พฤติกรรมการใช้งาน และหน้าเว็บยอดฮิต เพื่อให้เข้าใจว่าผู้ใช้โต้ตอบกับเว็บยังไง พร้อมหา
จุดปรับปรุงประสบการณ์ใช้งาน - รายงานโซเชียลมีเดีย (Social Media Report) : สรุปสถิติการมีส่วนร่วม ยอดผู้ติดตาม และโพสต์ที่ได้รับความนิยมจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Facebook
หรือ Instagram - รายงานการขายออนไลน์ (E-commerce Report) : ติดตามยอดขาย คำสั่งซื้อ ค่าเฉลี่ยต่อออเดอร์ และพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า
จากตัวอย่าง Looker Studio สรุปได้ว่า Looker Studio คือเครื่องมือวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจข้อมูลได้ง่ายขึ้น เห็นภาพรวมขึ้น และใช้เป็นพื้นฐานในการวางกลยุทธ์การตลาดออนไลน์หรือ SEO ได้อย่างแม่นยำการรู้ Looker Studio วิธีใช้ที่ถูกต้อง และนำ Google Looker Studio เข้ามาช่วยจึงถือว่าเป็นก้าวสำคัญสู่การตัดสินใจที่ชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพ สุดท้าย ถ้าอยากให้การตลาดออนไลน์ของคุณพุ่งทะยานเหนือคู่แข่ง ADME พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ช่วยวางแผน ออกแบบ และต่อยอดกลยุทธ์แบบครบวงจร ให้ทุกข้อมูลทุกตัวเลขกลายเป็นการตัดสินใจที่แม่นยำ เห็นผลจริง และสร้างผลลัพธ์ให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง
เปลี่ยนข้อมูลให้กลายเป็นกลยุทธ์การตลาดออนไลน์
ที่ชัดเจนวันนี้ไปกับ ADME
