หน้าหลัก » Digital Marketing » รู้จัก Topical Content คอนเทนต์มาแรงที่ช่วยแบรนด์ปังไว

อยากให้แบรนด์ถูกพูดถึงไวๆ ต้องใช้พลังของคอนเทนต์มาแรงให้เป็น
การเกาะกระแสคอนเทนต์มาแรงหรือ Topical Content ได้กลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่หลาย ๆ แบรนด์นำมาใช้เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้นในยุคที่กระแสโลกออนไลน์เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพราะสิ่งที่มาแรงวันนี้อาจหายไปในวันพรุ่งนี้ เห็นได้จากหลาย ๆ ตัวอย่างคอนเทนต์ ที่น่าสนใจตามแพลตฟอร์มฮิตที่มักมา ๆ หาย ๆ เป็นช่วง อย่างไรก็ตาม
แม้กลยุทธ์นี้จะเป็นแค่กระแสนิยมของผู้คน แต่การติดเทรนด์ คือสิ่งที่กลับทำให้แบรนด์ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง ADME Media จึงจะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ
กลยุทธ์นี้ พร้อมแชร์ตัวอย่างไอเดียคอนเทนต์ที่จะช่วยให้คุณนำไปปรับใช้กับแบรนด์หรือโปรเจกต์ของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Topical Content คอนเทนต์มาแรง คืออะไร ทำแล้วส่งผลดียังไงบ้าง
Topical Content คือคอนเทนต์มาแรงที่เน้นการนำเสนอเรื่องราว เหตุการณ์ หรือกระแสนิยมที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ ๆ และกำลังได้รับความสนใจสูงในช่วงเวลานั้น เช่น ข่าวด่วน ประเด็นไวรัล หรือหัวข้อที่เป็น Talk of the Town โดยจุดเด่นของคอนเทนต์ประเภทนี้คือความรวดเร็วและความง่ายต่อการคิดไอเดียคอนเทนต์ เพราะไม่จำเป็นต้องใช้เวลานานในการวิเคราะห์หรือค้นคว้าอย่างลึกซึ้ง หากแบรนด์สามารถสร้างสรรค์ Topical Content ได้ทันกระแส ก็จะช่วยเพิ่มคุณค่าและโอกาสที่คอนเทนต์จะถูกผู้ใช้ค้นหา รวมถึงแชร์ได้เป็นวงกว้าง ด้วยเหตุนี้การทำ Topical Content จึงส่งผลดีหลายด้านต่อการตลาดออนไลน์สำหรับแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น
- กระตุ้นให้คนเข้าชมเว็บไซต์เพิ่มขึ้นทันที เพราะผู้คนมักค้นหาข้อมูล เรื่องราว หรือคอนเทนต์มาแรงที่กำลังเป็นกระแสในช่วงเวลานั้น
- ช่วยเพิ่ม Reach และ Engagement ได้ในระยะสั้น เนื่องจากเนื้อหาของ Topical Content เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์หรือกระแสที่กำลังได้รับความนิยม ทำให้คอนเทนต์ได้รับ
ความสนใจและถูกแชร์มากขึ้น - ส่งเสริมให้คอนเทนต์อื่น ๆ ในเว็บไซต์ถูกค้นพบเพิ่มขึ้นแบบอ้อม ๆ ผ่านการเชื่อมโยงเนื้อหาหรือ Internal Linking ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ SEO โดยรวมของเว็บไซต์
- ช่วยสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือในฐานะแหล่งข้อมูลที่ทันสมัย เมื่อแบรนด์นำเสนอคอนเทนต์มาแรงได้เร็วและถูกต้อง จะทำให้ผู้ชมมองว่าแบรนด์มีความรู้และติดตาม
เทรนด์อย่างใกล้ชิด
Topical Content VS Evergreen Content มีความแตกต่างกันอย่างไร?
![Topical Content VS Evergreen Content มีความแตกต่างกันอย่างไร]](https://www.admeadme.co/wp-content/uploads/2025/06/Alt-Text_Topical-Content-VS-Evergreen-Content-มีความแตกต่างกันอย่างไร-1024x683.png)
ในโลกของการสร้างคอนเทนต์ออนไลน์ ADME เชื่อว่าหลาย ๆ คนมักจะได้ยินคำว่า Topical Content และ Evergreen Content อยู่บ่อยครั้ง แต่ทราบหรือไม่ว่าคอนเทนต์ทั้งสองประเภทนี้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนทั้งในเรื่องของลักษณะและเป้าหมายการใช้งาน โดย Topical Content เป็นคอนเทนต์ที่เน้นจับกระแสคอนเทนต์มาแรงในช่วงเวลาสั้น ๆ ซึ่งมักจะสร้างยอดเข้าชมและการมีส่วนร่วมได้อย่างรวดเร็ว แต่ความนิยมของเนื้อหาประเภทนี้ก็ลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน จึงเหมาะกับการใช้ในช่วงเวลาที่ต้องการผลลัพธ์แบบเร่งด่วน
ในทางกลับกัน Evergreen Content เป็นคอนเทนต์ที่มอบคุณค่าและสามารถสร้างความเชื่อมโยงกับผู้อ่านได้ยาวนาน เนื้อหาส่วนใหญ่จึงเป็นข้อมูลหรือความรู้ที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา ทำให้สามารถดึงดูดผู้ชมได้ต่อเนื่องและสร้างทราฟฟิกให้กับเว็บไซต์ได้ในระยะยาว นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ได้อีกด้วย และเพื่อให้ทุกคนเห็นภาพความต่างของ Topical Content VS Evergreen Content ชัดขึ้น ADME
บริษัทการตลาดออนไลน์ที่มีบริการรับจ้างเขียนคอนเทนต์จึงช่วยสรุปภาพรวมของคอนเทนต์แต่ละประเภทให้เข้าใจได้ง่ายผ่านตารางด้านล่างนี้
หัวข้อ | Topical Content | Evergreen Content |
---|---|---|
จุดเด่น | เน้นจับกระแส คอนเทนต์มาแรงเหตุการณ์กำลังมาแรง | เน้นเนื้อหาที่คงคุณค่า ไม่เปลี่ยนแปลง |
ระยะเวลาความนิยม | สั้นและมีช่วงเวลาจำกัด | ยาวนานและสม่ำเสมอ |
เป้าหมายหลัก | เพิ่มยอดเข้าชมและ Engagement อย่างรวดเร็ว | สร้างทราฟฟิกและความน่าเชื่อถือระยะยาว |
ตัวอย่าง | ข่าวไวรัล หรือเหตุการณ์ร้อนแรง | คู่มือใช้งาน เทคนิคการทำงาน หรือบทความให้ความรู้ |
ทำไมการทำคอนเทนต์มาแรงถึงสำคัญสำหรับการสร้างแบรนด์ยุคออนไลน์?
ในยุคที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่มีพฤติกรรมเสพสื่ออย่างรวดเร็ว อีกทั้งคอนเทนต์มาแรงยังเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ความเร็วในการผลิต คอนเทนต์มาแรง Topical Content คือสิ่งสำคัญที่แบรนด์ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าร่วมบทสนทนาออนไลน์ได้อย่างทันท่วงที พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายได้แบบสดใหม่และใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดโอกาสให้แบรนด์โชว์ความทันสมัย และตอบสนองต่อความสนใจของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
1. เพิ่มการมองเห็น (Visibility) ได้รวดเร็ว
การทำคอนเทนต์มาแรงที่กำลังเป็นประเด็นทำให้แบรนด์มีโอกาสสูงที่จะถูกมองเห็นในช่วงเวลาที่ผู้คนสนใจประเด็นเหล่านั้นนั้นพอดี โดยไม่จำเป็นต้องแข่งขันด้วยการใช้งบประมาณไปกับการโฆษณาจำนวนเยอะ ๆ หากทีมงานติดตามแหล่งข่าวหรือเทรนด์จากวงการใกล้ตัวอยู่เสมอ จะได้ไอเดียคอนเทนต์ใหม่ ๆ และสามารถสร้างโพสต์ออกมาได้ทันเวลา ซึ่งยิ่งปล่อย Topical Content เร็วเท่าไหร่ แบรนด์ก็ยิ่งมีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของกระแสได้เร็วขึ้นเท่านั้น
2. ช่วยเพิ่ม Engagement
เมื่อ Topical Content เข้ากับสิ่งที่ผู้คนกำลังพูดถึง ย่อมจูงใจให้เกิดการมีส่วนร่วม (Engagement)มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการกดไลก์ คอมเมนต์ หรือแชร์ต่อ โดยเฉพาะบนสื่อโซเชียลมีเดียที่อัลกอริทึมมักส่งเสริมโพสต์ที่มี Engagement สูงให้กระจายไปได้ไกลขึ้น ดังนั้นการเกาะกระแสคอนเทนต์มาแรงในช่วงเวลาที่เหมาะสมจึงช่วยเร่งการกระจายคอนเทนต์ให้แก่แบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. สร้างภาพลักษณ์ว่าแบรนด์ "ทันโลก ทันเหตุการณ์"
การที่แบรนด์พูดเรื่องเดียวกับสังคมในช่วงเวลานั้น ๆ แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจผู้บริโภค และสร้างความรู้สึกว่าแบรนด์ไม่ล้าสมัยหรือห่างเหินจากความเป็นจริง ซึ่งหากแบรนด์นำคอนเทนต์มาแรงมาเล่าเรื่องในแบบที่สอดคล้องกับตัวตนของแบรนด์ ก็จะยิ่งช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้แบรนด์ดูทันสมัยและเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น
4. สร้างโอกาสกระจายทราฟฟิก (Traffic) หลายช่องทาง
คอนเทนต์มาแรงที่อยู่ในกระแสส่วนใหญ่มักจะมีแนวโน้มได้รับความสนใจพร้อมกันจากหลาย ๆ แพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดียหรือการค้นหาผ่าน Google ดังนั้นเพียงแค่แบรนด์หยิบประเด็น Topical Content มาใช้ให้ถูกจังหวะก็จะสามารถกระตุ้นคนเข้าชมเว็บไซต์ รวมถึงหน้าเพจต่าง ๆ ได้แบบทันตา
และนี่คือเหตุผลที่ทำให้การสร้าง Topical Content ไม่ใช่แค่การสร้างคอนเทนต์มาแรงตามกระแส แต่เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดที่ทรงพลัง ซึ่งสามารถขับเคลื่อนแบรนด์ให้กลายเป็นที่พูดถึงในช่วงเวลาที่ผู้คนให้ความสนใจสูงสุด อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์ดูทันสมัย มีชีวิตชีวา และเข้าใจผู้บริโภคในทุกจังหวะของโลกออนไลน์ได้อย่างแท้จริง
ทำ Topical Content ยังไงให้เวิร์ก ดูตัวอย่างที่นำไปใช้ได้จริง

การทำคอนเทนต์มาแรง หรือ Topical Content ให้ประสบความสำเร็จ ไม่ได้หมายถึงการตามทุกกระแสแบบไร้ทิศทางไร้จุดหมาย แต่คือการคัดสรรเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ให้ไว สร้างคอนเทนต์ให้สอดคล้องกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้เร็ว ที่สำคัญ Topical Content ที่สร้างนั้นยังต้องมีคุณภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดในการสื่อสารทางการตลาด ฉะนั้นเพื่อให้เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น ADME บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ครบวงจรจึงได้รวบรวมตัวอย่างคอนเทนต์ ที่น่าสนใจของ Topical Content มาฝาก ซึ่งแบรนด์สามารถหยิบไปเป็นแรงบันดาลใจหรือปรับใช้ในการวางแผนคอนเทนต์ของตนเองได้ ดังนี้
เทศกาลหรือวันหยุดสำคัญ
เทศกาลหรือวันหยุดสำคัญอย่าง ปีใหม่ สงกรานต์ คริสต์มาส วันวาเลนไทน์ หรือฮาโลวีน ล้วนเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนมีอารมณ์ร่วมและมักจะเสพคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับการ
เฉลิมฉลอง ทำให้แบรนด์สามารถสร้างคอนเทนต์ที่เข้ากับอารมณ์เหล่านั้นได้ เช่น แคมเปญของขวัญปีใหม่ ส่วนลดวันวาเลนไทน์
วันสำคัญระดับโลก
วันสำคัญระดับโลกอย่าง Earth Day, International Women’s Day หรือ Pride Month นับเป็นโอกาสดีที่แบรนด์จะสะท้อนจุดยืนทางสังคมหรือแนวคิดที่สอดคล้องกับคุณค่าแบรนด์ผ่านคอนเทนต์ที่ให้ทั้งสาระและความร่วมสมัย
กระแสไวรัล
อีกหนึ่งตัวอย่างที่ทำให้ Topical Content เข้าถึงใจกลุ่มเป้าหมายได้ดีที่สุดคือ การหยิบประเด็นที่
“กำลังเป็นที่พูดถึง” หรืออยู่ในความสนใจของสังคมมาสร้างสรรค์คอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็น กระแสไวรัลคลิปฮิตบน TikTok เทรนด์ยอดนิยมบน X (Twitter) มีมตลกที่ถูกแชร์ต่ออย่างรวดเร็ว หรือแม้แต่ เหตุการณ์ใหญ่ระดับประเทศ เช่น การเลือกตั้ง,การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก หรือประเด็นข่าวดังที่ผู้คนกำลังติดตามอย่างใกล้ชิด
เนื้อหาประเภทนี้มักจะเรียกความสนใจได้อย่างรวดเร็ว เพราะผู้คนกำลังพูดถึงหรือมีส่วนร่วมอยู่แล้ว เพียงแต่แบรนด์ต้องเลือกให้ตรงจังหวะ และปรับให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของตัวเองให้ได้มากที่สุด จึงจะสามารถเปลี่ยน “กระแส” ให้กลายเป็น “พลัง” ที่ขับเคลื่อนการรับรู้และการมีส่วนร่วมจากผู้ติดตามได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อควรระวังในการสร้างสรรค์ Topical Content หรือคอนเทนต์มาแรง
แม้ Topical Content จะเป็นโอกาสดีที่ช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงผู้ชมได้จากหลากหลายช่องทางได้พร้อมกัน ทั้งยังช่วยเพิ่มยอด Engagement และการมองเห็นให้เกิดขึ้นแก่แบรนด์ แต่ในขณะเดียวกันการสร้างสรรค์คอนเทนต์มาแรงเหล่านี้ก็มีข้อควรระวังที่ต้องรู้ เพราะคอนเทนต์ประเภทนี้มักได้รับความสนใจในช่วงเวลาสั้น ๆ หากปล่อยคอนเทนต์ช้าหรือไม่ทันกระแส ความสดใหม่และความน่าสนใจของ Topical Content ก็จะลดลง ซึ่งส่งผลให้โอกาสในการดึงดูดผู้ชมลดน้อยลงอย่างมาก
ดังนั้นการทำ Topical Content อย่างมีประสิทธิภาพจึงต้องอาศัยทั้งตวามรวดเร็วและการติดตามข่าวสารต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อให้แบรนด์ไม่พลาดโอกาสในการเข้าร่วมบทสนทนาที่กำลังเป็นที่นิยม พร้อมทั้งรักษาภาพลักษณ์ความทันสมัยไว้ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ADME บริษัทการตลาดออนไลน์ที่มีบริการรับเขียนคอนเทนต์ได้รวบรวมข้อควรระวัง
ในการทำ Topical Content มาไว้ให้แล้วดังนี้
- คอนเทนต์มักจะมาไวไปไว: ความสนใจของผู้ชมต่อเนื้อหาคอนเทนต์ประเภทนี้มักมีเวลาจำกัด หากช้าเกินไป Topical Content จะหมดความน่าสนใจทันที
- ไม่เหมาะกับการสร้างเนื้อหาระยะยาว: เนื่องด้วย Topical Content มีช่วงพีคเพียงแค่ระยะสั้น จึงอาจมีการพิจารณาใช้ควบคู่กับ Evergreen Content เพื่อผลลัพธ์
ที่ต่อเนื่อง - ต้องมีการวางแผนและบริหารจัดการที่ดี: เพื่อให้ทีมสามารถผลิตและเผยแพร่ Topical Content ได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพมากที่สุด
- หลีกเลี่ยงการตามเทรนด์แบบไม่มีทิศทาง: ควรเลือกเฉพาะเทรนด์คอนเทนต์มาแรงที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์และกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้การสร้างสรรค์ Topical Content
เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Topical Content หรือคอนเทนต์มาแรงถือเป็นในกลยุทธ์ที่ช่วยแบรนด์ได้มากในการเชื่อมต่อกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอย่างทันท่วงที ทั้งยังตอบสนองต่อกระแสสังคม และสร้างการมีส่วนร่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้หลาย ๆ ตัวอย่างคอนเทนต์ ที่น่าสนใจของกลยุทธ์นี้จะต้องอาศัยความเร็ว และการเลือกเทรนด์ให้เหมาะกับแบรนด์ หากเลือกไอเดียคอนเทนต์และทำได้ดี ก็จะสามารถสร้างแรงกระเพื่อมทางการตลาดที่ทรงพลังได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะการติดเทรนด์ คือสิ่งที่ขยายการรับรู้ได้ดี ดังนั้นสำหรับธุรกิจที่สนใจอยากทำ Topical Content อย่างมืออาชีพ ADME พร้อมให้บริการที่ตอบโจทย์ทั้งความเร็วและคุณภาพแบบครบจบในที่เดียว