Backlink คืออะไร ? แบบสรุปง่ายๆ
Backlink คือขั้นตอนที่เรียกว่าเป็นกระบวนการสำคัญของการทำ SEO ที่นักการตลาดออนไลน์ ควรให้ความสำคัญตั้งแต่เริ่มทำไปจนถึงช่วงที่เว็บไซต์ติดแรงก์แล้ว การทำ Backlink SEO คือการทำให้มีการพูดถึงเว็บไซต์ของเราบนเว็บไซต์อื่นๆ หรือเป็นการลิงก์จากเว็บไซต์อื่นเข้ามาหาเรานั่นเอง พูดง่ายๆ ว่าขั้นตอนการทำ Backlink และ Link Building คือการสร้างความน่าเชื่อถือและเพิ่มคะแนนให้กับเว็บไซต์เรา ช่วยให้การทำ Search Engine Optimization (SEO) บนเว็บไซต์ของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้การหา Backlink คุณภาพดีจะสามารถช่วยให้การทำเว็บไซต์ให้มีคะแนนที่ดีขึ้น จะส่งผลถึงการทำ SEO ให้มีอันดับดีขึ้นอีกด้วย การทำ Backlink เปรียบเสมือนการส่งคะแนนจากเว็บอื่นมาหาเว็บไซต์ของเรา ซึ่งจะทำให้เว็บไซต์ของเราดูน่าเชื่อถือ และได้คะแนน (Domain Authority Score) มากขึ้นนั่นเอง ฉะนั้นเราจึงควรหาเว็บไซต์ที่มีคะแนนที่ดี มีความเกี่ยวข้อง และน่าเชื่อถือเพื่อเพิ่มคะแนน Backlink ของเราให้มีคุณภาพมากขึ้นนั่นเอง
ตามตัวอย่างที่กล่าวไปว่าการทำ Backlink คือการทำให้เว็บไซต์ของเป็นที่พูดถึง และติดอันดับการค้นหาบนหน้าการค้นหาอันเดับแรกๆ หรือบางครั้งอาจจะเรียกการทำ Backlink ด้วยชื่ออื่น เช่น Inbound Link หรือ Incoming Link ก็ได้เช่นกัน ความสำคัญของการทำ Backlink คือไม่ใช่แค่เพียงการทำให้มีพูดถึงเว็บไซต์ของเรา แต่ยังหมายถึงการขึ้นอันดับการค้นหาในหน้าแรกของ Google หรือระบบ Search Engine ต่างๆ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ และการอัตราการเข้าชมเว็บไซต์ (Traffic) ให้แก่เว็บไซต์เรา
ความสำคัญของการทำ Backlink คืออะไร ?
จากผลสำรวจของ Google สำหรับการทำ Backlink SEO คือพบว่า 90% ของเว็บไซต์ส่วนใหญ่ไม่มีการเข้ามาจากหน้าการค้นหาของ Google เลย เนื่องจากยังไม่มีการทำ Backlink หรือยังทำ Backlink ที่ไม่ถูกต้อง
พูดได้ว่า Backlink คือ 1 ใน 3 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เว็บไซต์เป็นที่ถูกพบจาก Google ฉะนั้นการทำเว็บไซต์ที่ดีเพื่อรองรับการค้นหาและการให้คะแนนจากระบบ Search Engine อาจจะพูดได้ว่าการทำ Backlink คือ First Priority สำหรับกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ควรทำ นอกจากจะเพื่อคะแนนให้แก่เว็บไซต์แล้ว ยังช่วยเพื่อความน่าเชื่อถือและอัตราการเยี่ยมชมเว็บไซต์ให้กับเราได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
เราอาจจะเปรียบเทียบได้ว่าการทำ Backlink SEO คือบ้านหรือหน้าร้านที่ให้คนเข้าเว็บที่มีความสนใจในเรื่องนั้นๆ มาเยี่ยมชม เพื่อให้พวกเขามีการพัฒนาจนกลายมาเป็นลูกค้าของเราในที่สุด เพราะหากเป็นเราที่เปิดบ้านหรือร้านนั้นๆ โดยไม่มีใครพูดถึง ไม่มีการเมนชั่น หรือไม่มีการรีวิวอ้างอิงถึง คนเข้าเว็บหรือลูกค้าในอนาคตก็อาจจะไม่สนใจหรือไม่เชื่อถือในสิ่งที่เรากำลังสื่อสารออกไปได้ ฉะนั้นการทำ Backlink คือการมีบุคคลอ้างอิงหรือการเป็นที่พูดถึงจากบุคคลอื่นๆ เพื่อสร้างความมั่นใจและความน่าเชื่อถือนั่นเอง
เราจะหา Backlink คุณภาพได้อย่างไร ?
เมื่อเรารู้จักและรู้ถึงความสำคัญของการทำ Backlink คืออะไรกันไปแล้ว ปัญหาต่อมาที่นักการตลาดผู้สนใจการทำ Backlink SEO คือ หา Backlink คุณภาพนั่นเอง แล้วจะรู้ได้ยังไงว่า Backlink ไหน หรือเว็บไซต์ไหนมีคุณภาพ? ก่อนอื่นเลยเราควรรู้จักคำศัพท์พื้นฐานที่จะทำให้เราเข้าใจเรื่องนี้ได้ดีขึ้นก่อน
DA หรือ Domain Authority
คือการให้คะแนนโดเมนต์ โดยมีคะแนนตั้งแต่ 0 จนไปถึง 100 ยิ่งเว็บไซต์มีคะแนนสูงจะยิ่งดีต่อการทำ Backlink
DR หรือ Domain Rating
คือความนิยมในโดเมนต์นั้นๆ ว่ามีความนิยมในการพูดถึงเป็นอย่างไร ซึ่งสามารถวัดคะแนนได้ตั้งแต่ 0 – 100% หากมีคะแนนในทางที่ดี จะส่งผลให้การทำ Backlink มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง
TF หรือ Trust Flow
คือการให้คะแนนความน่าเชื่อถือของหน้าเว็บไซต์ ซึ่งคำนวนมาจากว่าเว็บไซต์นั้นๆ ได้ลิงก์หรือมีการถูกอ้างอิงจากเว็บอื่นๆ ที่มีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน ซึ่ง Trust Flow จะมีคะแนนตั้งแต่ 0 – 100 ตัวอย่าง ถ้าเป็น Google ก็จะได้คะแนน 99 ทั้งสำหรับ Trust Flow และ Citation Flow
CF หรือ Citation Flow
คือคะแนนอ้างอิงเว็บไซต์ว่ามีมากน้อยแค่ไหน คล้ายๆ กับการทำบรรณานุกรมอ้างอิงที่ท้ายเล่มหนังสือนั่นเอง
นอกจากนี้การหา Backlink คุณภาพยังสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆได้ ดังนี้
1. Do Follow Link
คือการที่เว็บไซต์สามารถส่ง Backlinks และส่งคะแนนต่างๆ มายังเว็บไซต์ของเรา เราจะได้รับคุณภาพและสามารถส่งต่อคะแนน SEO มายังเว็บไซต์ของเราได้อีกด้วย
2. No Follow Link
หากพูดให้เข้าใจง่ายๆคือการทำตรงข้ามกับ Do Follow Link นั่นเอง No Follow link คือการที่เว็บไซต์อื่นพูดถึงเราแต่ะจะไม่ส่งต่อคะแนน SEO มาให้เรา แต่การที่มี No follow Link ไม่ใช่เรื่องที่แย่เสมอไป เพราะ No follow link อาจจะช่วยให้มีอัตราการเยี่ยมชมเข้ามายังเว็บไซต์ของเรา เพิ่มการมองเห็นคอนเทนต์ของเราได้
การหา Backlink คุณภาพมีหลักเกณฑ์เพียงไม่กี่ข้อ สามารถจำแนกเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ดังนี้
เลือก Backlink จากเว็บไซต์ Authority สูง
กล่าวได้ว่ายิ่งเว็บไซต์ที่ลิงก์มายังเว็บไซต์ของเรามีคะแนน DA ในระดับที่สูง เว็บไซต์ของเราก็จะยิ่งน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถเช็คคะแนนเว็บไซต์ได้ที่นี่
เลือก Backlink ที่มีความเกี่ยวข้อง
เว็บไซต์ที่ลิงก์มาควรเป็นเว็บไซต์ที่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาเว็บไซต์ของเรา เช่นเราทำเว็บไซต์ประเภทอาหาร ก็ควรลิงก์มาจากเว็บไซต์อาหารหรือเกี่ยวกับอาหารเช่นกัน ซึ่งจะทำให้ Google จดจำและเพิ่มอันดับคะแนนได้เป็นอย่างดี
เป็นที่มี “คนใช้งาน” จริงๆ
การที่เว็บไซต์ Backlink ที่เราเลือกมามีคนใช้จริงๆนั้น หมายความได้ว่าเว็บนั้นจะต้องมีคะแนนต่างๆ ที่ดีด้วย และยังช่วยเพิ่มอัตราการเยี่ยมชมเว็บไซต์ (Traffic) ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
การ Link Building คืออะไร?
หากเราเข้าใจว่า Backlink คืออะไร มีประโยชน์ และหลักเกณฑ์อย่างไรกันไปบ้างแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่เราแนะนำคือการเริ่มลงมือทำจริง โดยเราขอแนะนำวิธีในการทำ Backlink ให้มีคุณภาพมาฝากกัน
เริ่มต้นทำคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ
เหนือสิ่งอื่นใดการทำคอนเทนต์ของเราให้ดีและมีคุณภาพ มีประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าของเราให้มากที่สุดเป็นสิ่งที่ควรเริ่มทำเป็นอันดับแรก หากเราทำคอนเทนต์ที่ดีมีคุณภาพแล้ว ก็จะง่ายต่อการที่จะมีเว็บไซต์อื่นพูดถึงเราได้ และไม่จำเป็นต้องจำกัดรูปแบบคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็น Blog, Infographic หรือ Video ก็สามารถเลือกใช้ได้ทั้งหมด
ติดต่อเว็บไซต์อื่นๆ เพื่อหา Backlink คุณภาพ
การติดต่อเว็บไซต์อื่นๆเพื่อสร้าง Backlink คือการให้เว็บไซต์ปลายทางลิงก์กลับมายังเว็บไซต์ของเรา ซึ่งอาจจะเป็นการช่วยทำคอนเทนต์ให้กับเว็บไซต์นั้นๆ ก็ย่อมได้
มากไปก็ไม่ดี เพราะระวัง “สแปม”
อะไรที่มันมากไปก็ไม่ดี การหา Backlink คุณภาพในจำนวนที่มากไปและไม่เข้ากับเนื้อหาคอนเทนต์หรือเนื้อหาเว็บไซต์ของเรา อาจจะส่งผลให้ระบบ Search Algorithm แจ้งได้ว่าเป็นสแปมและทำลงโทษเว็บไซต์ของเรา ซึ่งอาจส่งผลให้คะแนนเว็บไซต์ของเราลดลงในที่สุด
การเช็คผลตอบรับ Backlink คืออะไร และสามารถทำได้อย่างไร?
ถึงขั้นตอนนี้แล้วทุกคนคงทราบดีกันแล้วว่าการเริ่มต้นทำ Backlink คืออะไร แต่อีกเทคนิคที่เราอยากจะแนะนำเพื่อให้การทำ Backlink ของเรามีคุณภาพสูงสุด ADME ขอแนะนำเครื่องมือที่ช่วยเช็คที่สามารถเช็คได้ดังนี้
Google Search Console
-
- เครื่องมือที่ใช้เช็คคุณภาพที่ง่ายที่สุดของ Backlink SEO คือ Google Search Console นั่นเอง โดยต้องยืนยันตัวตนสำหรับเว็บไซต์ก่อน ถึงจะเริ่มดูคะแนนต่างๆ ได้
- หากใครยังไม่รู้จักเครื่องมือตัวนี้ อ่านได้เลยที่ Google Search Console คืออะไร
Ahrefs’ Free Backlink Checker
-
- อีกหนึ่งเครื่องมือในการหา Backlink คุณภาพได้ไม่จำกัดแค่ต้องเป็นเว็บไซต์ของเรา และมีข้อมูลคะแนนที่ค่อนข้างละเอียด เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่นิยมใช้กันเป็นอย่างยิ่ง และที่สำคัญคือสามารถใช้งานได้ฟรีอีกด้วย
Backlinks Checker
-
- อีกหนึ่งเครื่องมือที่นิยมใช้คือ Backlinks Checker จาก Neil Patel สามารถใช้เช็คลิงก์จากเว็บไซต์ของใครก็ได้ มีรายละเอียดเจาะลึก ชัดเจน เป็นอีกเครื่องมือที่น่าสนใจเลยทีเดียว
บทสรุป Backlink คืออะไร ?
สรุปได้ว่า Backlink คือการสร้างความน่าเชื่อถือและเพิ่มการค้นหาให้กับเว็บไซต์ของเรา ด้วยการทำ Backlink SEO คือการทำให้มีการพูดถึงเว็บไซต์ของเราบนเว็บไซต์อื่นๆ หรือเป็นการลิงก์จากเว็บไซต์อื่นเข้ามาหาเรานั่นเอง
ซึ่งความสำคัญของการทำ Backlink คือช่วยเพิ่มคะแนนให้แก่เว็บไซต์แล้วยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ เพิ่มอัตราการเยี่ยมชมเว็บไซต์ให้กับเราและเพิ่มโอกาสในการไต่อันดับในหน้าการค้นหาของ Google นั่นเอง
นอกจากนี้ การทำ Backlink ยังช่วยเพิ่มอัตราการเยี่ยมชมเว็บไซต์ (Traffic) ได้เป็นอย่างดี ซึ่งการทำ Backlink หรือ Link Building อาจจะต้องเริ่มต้นจากการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ หา Backlink คุณภาพดี และใช้เทคนิคตามที่เราได้แนะนำเอาไว้ รวมไปถึงการวัดผลคุณภาพเพื่อประเมินคุณภาพอย่างละเอียด
การสร้างความน่าเชื่อถือและเพิ่มคะแนนให้กับเว็บไซต์เรา จะช่วยให้การทำ Search Engine บนเว็บไซต์ของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้การหา Backlink คุณภาพดีจะสามารถช่วยให้การทำ SEO มีอันดับที่ดีขึ้น และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำ SEO ได้เป็นอย่างดีนั่นเองจะเห็นได้ว่าการทำ SEO นั้นมีหลากหลายปัจจัยมากมาย และสำหรับมือใหม่เองอย่าลืมว่าการพัฒนาเว็บไซต์ของตัวเองก็สำคัญเช่นกัน ซึ่งสิ่งแรกที่เราต้องให้ความสำคัญที่สุดนั่นคือ Page Title หากใครยังไม่รู้จักสามารถอ่านเพิ่มเติมได้เลย ที่ “Page Title คืออะไร”