คู่มือสำหรับผู้ประกอบการ SEO คืออะไรสำคัญอย่างไร เริ่มตอนไหน
Table of Contents
ในแง่มุมของธุรกิจออนไลน์ การทำ SEO คืออะไรสำคัญอย่างไร? น่าจะเป็นคำถามที่เจ้าของธุรกิจให้ความสนใจ โดยเฉพาะธุรกิจที่มีเว็บไซต์ของตัวเอง นอกจากการทำ SEO ช่วยให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จัก มี Traffic ไหลเข้าเว็บ เพราะมีคนเสิร์ชเจอเว็บของเราบ่อยขึ้น ในบทความนี้ ADME จะมาทำความรู้จัก SEO กันตั้งแต่ศูนย์ว่า SEO คืออะไร? สำคัญต่อธุรกิจออนไลน์อย่างไร ควรเริ่มทำ SEO ตอนไหน? หากอยากจ้างบริษัทเอเจนซี่รับทำ SEO ต้องพิจารณาเรื่องไหนบ้าง มาดูคำตอบกัน
SEO คืออะไรสำคัญอย่างไร? ทำไมธุรกิจยุคดิจิทัลควรทำความเข้าใจ
ก่อนไปหาคำตอบการทำ SEO สำคัญอย่างไร มาดูว่า SEO คืออะไร? สำหรับ SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization เป็นการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบน Search Engine เพื่อเพิ่มโอกาสที่คนจะเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์มากขึ้น ส่งผลให้การทำ SEO เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่ช่วยให้การทำคอนเทนต์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำโดยไม่ต้องเสียเงินโปรโมตมากมาย
หากถามว่าทำไมการทำ SEO ถึงสำคัญ? เพราะทุกวันนี้ผู้คนส่วนใหญ่ใช้ Google ค้นหาข้อมูลที่สนใจ ทำให้ Google เป็นหนึ่งในเครื่องค้นหาที่มีคนใช้งานมากที่สุดในโลก ดังนั้นการทำ SEO เพื่อดันเว็บไซต์ของเราติดหน้าแรกบน Google ด้วยคีย์เวิร์ดที่ต้องการ และถ้าคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจติดอันดับที่ดี ก็ยิ่งมีการเข้าชมมากขึ้น นั่นหมายความว่ามีลูกค้าใหม่และการรับรู้แบรนด์เพิ่มขึ้น จนทำให้ธุรกิจบนโลกออนไลน์เติบโตมากขึ้นตามไปด้วย
รู้จัก 3 หัวใจหลักของการทำ SEO ที่ช่วยดันเว็บให้เหนือคู่แข่ง
เพื่อเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ประสบความสำเร็จในการทำ SEO มากขึ้น ต้องใช้หลายองค์ประกอบเพื่อให้ Search Engine อย่าง Google เลือกเว็บไซต์ของเราขึ้นไปแสดงผลในหน้าแรกของการค้นหา ซึ่ง ADME บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์และรับจ้างทำ SEO ด้วยทีมงานมืออาชีพจะมาแชร์ 3 หัวใจสำคัญในการทำ SEO ที่ทำให้เว็บไซต์อ่านง่ายและเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายที่สุด
On-Site SEO
On-Site SEO หรือ On-Page SEO เป็นการปรับแต่งส่วนต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์ของเรา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพให้ดีพอต่อผู้ใช้งาน รวมถึงทำให้ระบบการประมวลผลของ Google เข้าใจได้ง่ายว่าเว็บไซต์ของคุณเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร โดยสิ่งที่ควรปรับเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ On-Site SEO เช่น
- การปรับแต่ง HTML
- การปรับโครงสร้าง URL
- การทำ Internal Links
- ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ
- การเพิ่มประสิทธิภาพของภาพและวิดีโอ
Off-Site SEO
สำหรับ Off-Site SEO หรือ Off-Page SEO คือการทำ SEO จากปัจจัยภายนอกเว็บไซต์ของเรา เพื่อยกระดับเว็บไซต์ให้มีความน่าเชื่อถือและเข้าเกณฑ์การพิจารณาของ Google มากยิ่งขึ้น เช่น
- การทำ Link Building เพื่อเชื่อมโยงกลุ่มเป้าหมายจากเว็บอื่น ๆ มายังเว็บของเรา
- การทำ Content Marketing เพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายโดยใช้คอนเทนต์เป็นสื่อกลาง
- การทำให้แบรนด์ถูกพูดถึงผ่านโซเชียลมีเดียหรือช่องทางออนไลน์อื่น ๆ
SEO Content
สำหรับ SEO Content คือการสร้างบทความมีคุณภาพด้วยการใช้เทคนิค SEO เพื่อตอบโจทย์กับความต้องการในการค้นหาของกลุ่มเป้าหมาย หากบทความไหนที่ Search Engine มองว่าสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่เข้ามาค้นหาได้ดี ก็จะถูกนำมาแสดงในอันดับแรก ๆ ส่งผลให้ผู้ใช้คลิกเข้ามาอ่านบทความมากขึ้น ทั้งยังเพิ่มโอกาสในการปิดการขายสินค้าหรือบริการอีกด้วย โดยสิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการทำ SEO เพื่อให้ว็บไซต์ติดอันดับ เช่น
- การเลือก Keyword ที่จะนำมาใช้
- ความสอดคล้อง Keyword กับเนื้อหา
- ตำแหน่งเนื้อหาของบทความที่ควรใส่ Keyword
- เนื้อหาเป็นไปตามที่กลุ่มเป้าหมายต้องการ
จะเห็นได้ว่า On-Site SEO, Off-Site SEO และ SEO Content เปรียบเสมือนโครงสร้างของบ้าน หากต้องการให้คนเสิร์ชเจอเว็บของเราบ่อย ๆ เพื่อเพิ่มจำนวนเยี่ยมชมเว็บไซต์อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ควรปรับปรุงเว็บไซต์และทำ SEO อย่างสม่ำเสมอ
ไขข้อสงสัย ทำไมต้องทำ SEO แล้วการทำ SEO ช่วยธุรกิจคุณอย่างไร?
แม้ทราบกันแล้วว่า SEO คืออะไรสำคัญอย่างไร? แต่ยังมีเจ้าของธุรกิจบางส่วนที่ลังเล ไม่มั่นใจว่าการทำ SEO จะช่วยให้เว็บไซต์ของเราเป็นที่รู้จักเป็นวงกว้าง เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เพื่อให้เห็นความสำคัญของการทำ SEO มากขึ้น ADME Media บริษัทรับทำ SEO ที่มีบริการรับทำ SEO ติดหน้าแรกแบบ SEO สายขาว ซึ่งเป็นการทำเว็บไซต์ที่ถูกต้องตามกฎหรือตามหลักของ Google Guideline นั่นเอง วันนี้ขอพาไปหาคำตอบว่า ทำไมต้องทำ SEO และการทำ SEO ช่วยธุรกิจของคุณได้อย่างไร?
หากพิจารณาถึงการใช้ Google Search พบว่าในแต่ละวันมีผู้คนเข้าไปเสิร์ชหาสิ่งที่ต้องการบน Google มากกว่า 3,000-4,000 ล้านครั้งต่อวัน และจากพฤติกรรมของคนที่เข้ามาค้นหามักคลิกเว็บไซต์ที่แสดงอยู่ในหน้าแรกของ Google ด้วยเหตุนี้การทำ SEO ซึ่งช่วยให้เว็บไซต์ของเราขึ้นอยู่ในหน้าแรก ๆ ของการค้นหา จะช่วยให้ลูกค้ามองเห็นและคลิกเข้าชมเว็บไซต์ของเรามากกว่าลำดับหลัง ๆ ดังนั้นการที่เว็บไซต์มี SEO ที่ดีจะมีข้อดีดังนี้
- ทำให้เว็บไซต์ของเราได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้น
- เพิ่มเข้านวน Traffic เข้าสู่เว็บไซต์
- เพิ่มจำนวน Conversion
- สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ในระยะยาว
ต้องรู้ การทำ SEO เพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ ควรเริ่มตอนไหนถึงดี
สำหรับใครที่สงสัยว่าจะเริ่มทำ SEO ก่อนหรือหลังสร้างเว็บไซต์? คำตอบคือควรเริ่มทำ SEO ตั้งแต่ก่อนเปิดตัวเว็บไซต์ เพื่อไม่ให้สูญเสียโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งการทำ SEO สามารถเริ่มต้นจากการวางแผนเว็บไซต์ ผ่านกระบวนการต่อไปนี้
การวางโครงสร้างของเว็บไซต์
โครงสร้างเว็บไซต์ ถือเป็นปัจจัยสำคัญซึ่งส่งผลการทำ SEO เพราะขั้นตอนแรกของกระบวนการทำงาน คือ การที่ Bot (โปรแกรมเก็บข้อมูล) จะเข้ามาตรวจสอบเว็บไซต์เพื่อสำรวจว่าเว็บไซต์เกี่ยวกับอะไร มีอะไรบ้าง ทำให้โครงสร้างเว็บไซต์เปรียบเสมือนไกด์นำทางให้ Bot เข้าไปชมสิ่งต่างๆ ภายในเว็บไซต์ของเรา ดังนั้นถ้ามีการออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดี Bot ก็จะเข้ามาเก็บข้อมูลได้ง่าย และมีผลให้เว็บได้รับการจัดอันดับที่ดีตามไปด้วย
ออกแบบเว็บไซต์โดยอิงมาจากประสบการณ์ผู้ใช้ (UX)
สำหรับการออกแบบเว็บไซต์ตามประสบการณ์ของผู้ใช้งานหรือ User Experience เป็นกระบวนการออกแบบเว็บไซต์ได้โดยอิงมาจากประสบการณ์ผู้ใช้ (UX) เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดี และสะดวกสบายในการใช้งาน จนสร้างการจดจำและความรู้สึกที่ดีในขณะที่กำลังใช้งาน เพราะถ้าเว็บไซต์สามารถมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ใช้ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้เหล่านั้นสนใจ และกลับมาที่เว็บไซต์เพื่อเยี่ยมชมหรือสั่งซื้อสินค้ามากขึ้น
การวิเคราะห์ Keyword
การวิเคราะห์ Keyword คือจุดสตาร์ทของการทำ SEO ที่มีประสิทธิภาพ เพราะถ้าไม่มีคำค้นหาเหล่านี้ช่วยให้สามารถเขียนเนื้อหาที่มีคุณภาพดีที่จะดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ให้อยู่ในเว็บไซต์ได้เป็นเวลานาน โดยการวิเคราะห์ Keyword สามารถทำได้ด้วยการใช้เครื่องมือต่าง ๆ เช่น
- Google Keyword Planner
- Google Trends
- Keyword Tool.io
- Ahrefs
สำหรับ Keyword ที่ได้จากการวิเคราะห์ว่ามี Search Volume สูงจะถูกใช้ในการสร้างองค์ประกอบอื่น ๆ บนเว็บไซต์ อย่างการแทรกคีย์เวิร์ดในคำอธิบายหน้า เนื้อหาของเว็บไซต์ หรือข้อความในภาพนั่นเอง
การปรับปรุงเนื้อหา
การปรับปรุงเนื้อหาตามหลัก SEO เป็นกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลที่ช่วยสร้างเนื้อหาบนเว็บไซต์ให้มีคุณค่าและตอบโจทย์ความต้องการค้นหาของผู้ใช้งาน และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการทำ SEO ควรปรับปรุงเนื้อหาผ่านวิธีการ ดังนี้
- ใส่ Keyword ที่เหมาะสมในทุกบทความ
- กระจาย Keyword ทั้งบทความ
- เขียน URL ที่เข้าใจง่ายและมีคีย์เวิร์ดแทรกอยู่
- หัวข้อหลัก หัวข้อรอง และหัวข้อย่อย ต้องซัพพอร์ตกันและกัน
ซึ่งการปฏิบัติตามหลัก SEO ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าเนื้อหาบนเว็บไซต์มีคุณภาพ อ่านแล้วเข้าใจง่าย และช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้งาน
การเพิ่มความเร็วของเว็บไซต์
การเพิ่มความเร็วของเว็บไซต์เป็นปัจจัยสำคัญในการออกแบบ UX เพราะผู้ใช้งานย่อมคาดหวังให้เว็บไซต์โหลดได้อย่างรวดเร็วทันใจ เพราะถ้าเว็บไซต์โหลดช้าอาจทำให้ผู้ใช้หงุดหงิดจนไม่อยากเข้าไปใช้งาน ฉะนั้นตอนวางแผนทำเว็บไซต์ธุรกิจอย่าลืมหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพให้กับความเร็วของเว็บไซต์ อย่างการลดขนาดรูปภาพ ลดจำนวนคำร้องขอ HTTP หรือเพิ่มประสิทธิภาพเซิร์ฟเวอร์
การทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดอันดับ ต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงเห็นผล
ทำ SEO ให้เว็บติดหน้าแรกใช้เวลานานไหม? หรือทำ SEO ใช้เวลากี่เดือน? คำตอบคือการทำ SEO จะเริ่มแสดงผลช่วง 3-6 เดือนของการทำ SEO แต่บางกรณีอาจใช้เวลานานถึง 1 ปีทีเดียว เพราะการทำ SEO ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทันที โดยเหตุผลที่ทำให้ต้องใช้เวลานานถึงเห็นผลลัพธ์ก็มาจากหลากหลายปัจจัย ดังนี้
อายุของเว็บไซต์
เพราะ Google ต้องใช้เวลาในการทำความรู้จักและจัดทำดัชนีเว็บไซต์ ว่าเว็บไซต์ของเรามีเนื้อหา สินค้า หรือบริการเกี่ยวกับอะไร มีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน ดังนั้นหากเว็บเปิดมานานเวลาทำ SEO ก็จะใช้เวลาน้อยตามไปด้วย เนื่องจาก Google เคยตรวจสอบและ Index ไว้แล้ว
การแข่งขัน
การแข่งขันระหว่างเว็บไซต์ของเราและคู่แข่งก็มีผลต่อการจัดอันดับเว็บในระยะยาว ดังนั้นเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้วยการทำ SEO จึงจำเป็นต้องทำการวิเคราะห์คู่แข่งอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำไปปรับกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์
การจัดสรรทรัพยากรเพื่อทำ SEO
ทรัพยากรที่เจ้าของธุรกิจจัดสรรให้กับ SEO เป็นอีกปัจจัยที่มีผลต่อการทำ SEO ฉะนั้นถ้าเจ้าของธุรกิจทุ่มงบจ้างมากเท่าไหร่? ก็เพิ่มโอกาสในการจัดอันดับของเราตามไปด้วย แต่ทั้งนี้อาจมีบางธุรกิจม่สามารถลงทุนทรัพยากรทั้งหมดใน SEO และรอผลลัพธ์ได้
กลยุทธ์ที่ใช้
หลังวางกลยุทธ์ SEO ควรมีการประเมินแผนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกงานเป็นไปตามแผนที่วางไว้อย่างเหมาะสม เพราะถ้าทำ SEO ผิดจากเป้าหมายที่วางไว้อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนในการปรับกลยุทธ์ ซึ่งอาจทำให้เราสูญเสียโอกาสทางธุรกิจไปอย่างน่าเสียดาย และการจ้างบริษัทเอเจนซี่รับทำ SEO มืออาชีพจะช่วยให้เว็บของเราเท่าทันทุกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
ธุรกิจประเภทไหน? เหมาะกับการทำ SEO เพื่อเว็บไซต์เป็นที่รู้จัก
หากถามธุรกิจใดเหมาะที่จะทำ SEO คำตอบคือเหมาะกับธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคและบริโภค, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, ธุรกิจร้านอาหาร, ธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์ รวมถึงธุรกิจอื่น ๆ ที่ต้องการโปรโมตสินค้าและบริการให้เป็นที่รู้จัก เพราะการทำ SEO ถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ที่ทำให้เว็บไซต์ของเราเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และเพิ่มโอกาสสร้างยอดขายให้มากขึ้น
โดยบริษัท ADME ผู้เชี่ยวชาญด้านการรับทำการตลาดออนไลน์แบบครบวงจร ยินดีให้คำปรึกษาและเข้ามาดูเว็บไซต์ธุรกิจของคุณให้เติบโตอย่างมั่นคงผ่านบริการเหล่านี้
- SEO Service เป็นบริการ SEO ครบวงจร เริ่มตั้งแต่ทำความเข้าใจธุรกิจ จนไปถึงค้นหาคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมต่อการสร้างยอดขาย เพื่อพาเว็บไซต์ธุรกิจติดหน้าแรกของ Google
- Content Marketing เป็นบริการรับเขียนคอนเทนต์ตามเทรนด์ปัจจุบัน รวมถึงหัวข้อต่าง ๆ ที่คนมักจะสนใจเกี่ยวกับธุรกิจ เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้อ่าน
- Social Media Ads คือบริการรับยิงแอดทุกแพลตฟอร์มโดยนักยิงแอดมืออาชีพ ที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย และเพิ่ม Brand Awareness ทำให้ธุรกิจเป็นที่รู้จัก
- Google Ads บริการรับทำโฆษณาบน Google ครบวงจร ด้วยทีมงานมากประสบการณ์ ทำให้โฆษณาบน Google เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแม่นยำ
- Website มีบริการรับทำเว็บไซต์คุณภาพ ตอบโจทย์ลูกค้าของทุกธุรกิจทั้งด้าน UX และ UI เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค
- Consultation Services คือบริการให้คำปรึกษาด้านธุรกิจออนไลน์ ครบวงจร จากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เพื่อความแข็งแกร่งของธุรกิจคุณ
การทำ SEO ให้ประสบความสำเร็จ ต้องใช้อะไรบ้าง? ที่นี่มีคำตอบ
หากเราต้องการจะทำ SEO ให้ดี และตอบโจทย์ทุกเกณฑ์ของ Search Engine และตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาค้นหาสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบนโลกออนไลน์ ควรใช้กลยุทธ์และเทคนิคการทำ SEO ที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาของ Search Engine เช่น
- ศึกษา Brand Identity เพื่อทำความเข้าใจตัวแบรนด์ ก่อนสร้างคอนเทนต์ที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์
- ค้นหา Keyword ที่เกี่ยวกับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ รวมถึงวิเคราะห์ Keyword คู่แข่ง เพื่อกำหนดเป้าหมายในการทำกลยุทธ์ SEO
- ปรับปรุงโครงสร้างและเนื้อหาของเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์กับเครื่องมือค้นหา
- ปรับโครงสร้างเว็บไซต์โดยรวมให้เหมาะสมกับ Bot ของ Google
- สร้างคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาสดใหม่ เพื่อดึงดูดผู้เข้าชมเว็บไซต์
ไขคำตอบ ควรจ้างบริษัทเอเจนซี่รับทำ SEO หรือทำ SEO ด้วยตัวเอง
สำหรับการทำ SEO หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องง่าย แค่ทำทุกอย่างให้ถูกหลัก SEO ก็ช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับที่ดีบน Search Engine แต่ความจริงการทำ SEO มีรายละเอียดยิบย่อยเกี่ยวกับเทคนิคมากกว่าที่คิด ถ้าอย่างนั้นมาดูข้อเปรียบเทียบกันดีกว่า ว่าจ้างเอเจนซี่รับทำ SEO หรือทำ SEO ด้วยตัวเอง แบบไหนส่งผลดีมากกว่ากัน
การทำ SEO ด้วยตัวเอง ดีอย่างไร? มาดูคำตอบกัน
เนื่องจากกระบวนการทำ SEO มีขั้นตอนที่ซับซ้อน ต้องอาศัยเทคนิคหลายอย่างเข้าใจช่วยเพื่อให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จักและมอบประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้งาน ทำให้การทำ SEO ด้วยตัวเองต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่อง SEO อีกทั้งต้องคอยโฟกัสกับเรื่อง SEO อยู่เรื่อย ๆ เพื่อดันเว็บไซต์ให้ติดอันดับและเป็นที่รู้จักต่อกลุ่มเป้าหมาย แม้การทำ SEO ด้วยวิธีนี้จะทำให้ธุรกิจมีทีม SEO เป็นของตนเอง แต่ต้องใช้เวลาและงบจำนวนไม่น้อยกว่าที่เว็บไซต์จะประสบความสำเร็จ
จ้างบริษัทเอเจนซี่รับทำ SEO คุ้มกว่าจริงไหม
การเลือกจ้างเอเจนซี่รับทำ SEO แบบสายขาวเข้ามาดูแลธุรกิจของเรา ตอบโจทย์ความคุ้มค่าได้มากกว่าการทำ SEO ด้วยตัวเอง นอกจากมีทีมงานมืออาชีพซึ่งมีประสบการณ์ทำ SEO และความเชี่ยวชาญเข้ามาจัดการกับปัญหาได้ทันที เพื่อให้เว็บไซต์ของเรามีคุณภาพ ตอบโจทย์หลักเกณฑ์ของ Search Engine ยังมีทีมงานคอยวิเคราะห์และปรับปรุงกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับหลักเกณฑ์ของทาง Search Engine อยู่เสมอ เพื่อให้ธุรกิจของเราอยู่เหนือคู่แข่งในระยะยาว
หากถามว่าจ้างบริษัทเอเจนซี่รับทำ SEO หรือทำ SEO ด้วยตัวเอง เลือกแบบไหนดี? ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของเจ้าของธุรกิจเป็นหลัก แต่ถ้าอยากให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาวและไม่พลาดโอกาสดี ๆ การเลือกใช้บริการบริษัทรับทำ SEO ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO โดยตรงถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่า
จ้างบริษัทเอเจนซี่รับทำ SEO ต้องดูอะไรบ้าง? ถึงจะไม่โดนหลอก
ปัจจุบันมีบริษัทรับทำ SEO ให้เลือกใช้บริการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการทำ SEO กับบริษัทใด ควรต้องเช็กเรื่องดังต่อไปนี้
- ควรมองหาบริษัทรับทำ SEO ที่มีประสบการณ์การทำงานและเข้าใจด้าน SEO โดยตรง จะช่วยให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับอย่างมีคุณภาพ
- มีแผนการทำงานหรือกลยุทธ์ที่ชัดเจน เพราะการทำ SEO เป็นการตลาดแบบระยะยาว หากมีระยะแผนการทำงานที่ชัดเจน จะช่วยให้ธุรกิจติดตามผลได้สะดวก
- การดูรีวิวและผลงานของเอเจนซี่รับทำ SEO จากผู้ใช้งาน จะช่วยคัดกรองบริษัทได้ระดับหนึ่งว่ามีประสบการณ์การให้บริการ SEO ในกลุ่มสายงานของธุรกิจเราหรือไม่
- ควรเช็กว่ามีกลยุทธ์และตัวชี้วัดอะไรที่จะมาตอบสนองเป้าหมายที่เราต้องการบ้าง? เพราะถ้าเลือกกลยุทธ์ SEO ผิดอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจในระยะยาว
ทำไมถึงควรใช้บริการทำ SEO กับ ADME บริษัทรับจ้างทำ SEO สายขาว
เนื่องจาก ADME บริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ครบวงจร มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์ด้านการตลาดออนไลน์และการทำ SEO ที่ครอบคลุมทุกกระบวนการมาคอยดูแลธุรกิจให้สามารถก้าวเป็นผู้นำในการแข่งขันและเข้าไปครองใจกลุ่มลูกค้าได้อย่างยั่งยืน โดยขั้นตอนการทำ SEO ของ ADME จะเริ่มต้นตั้งแต่…
- การให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำ และวางแผนเกี่ยวกับการทำ SEO ให้ตอบโจทย์เป้าหมายของธุรกิจมากที่สุด
- ADME เข้ามาช่วยดูแลทุกกระบวนการและขั้นตอนทำ SEO เพื่อให้เว็บไซต์มีคุณภาพและติดอันดับที่ดีบน Search Engine ในระยะยาว เช่น พัฒนาคอนเทนต์, วิเคราะห์
- Keyword ที่เหมาะสม หรืออัปเดตคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น
- มีการวิเคราะห์ผลลัพธ์ของการทำ SEO เพื่อใช้ปรับปรุงกลยุทธ์ SEO ในครั้งต่อไป รวมถึงส่งสรุปให้ลูกค้าทราบความคืบหน้าการทำ SEO
- มีบริการทำ SEO ในรูปแบบของแพ็กเกจ ไม่ว่าจะเป็นบริการรับจ้างทำ SEO รายเดือน หรือรายปี ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าแพ็กเกจแบบไหนที่เหมาะสมกับธุรกิจของเรา
จากบทความ SEO คืออะไรสำคัญอย่างไร? จะเห็นได้ว่าบริการทำ SEO เปรียบเสมือนประตูบานใหญ่ที่เชื่อมโยงเว็บไซต์ของเราให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ฉะนั้นเจ้าของธุรกิจที่ได้คำตอบแล้วว่า SEO คืออะไร? และอยากยกระดับเว็บไซต์ให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว รวมถึงสร้างความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจ บริการ SEO ของ ADME บริษัทรับทำ SEO สายขาว เป็นอีกหนึ่งช่องทางการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่อัดแน่นไปด้วยประสิทธิภาพที่ทุกธุรกิจไม่ควรพลาด